แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์โต้แย้งคำพิพากษาศาลแรงงานกลางในปัญหาที่ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่โจทก์อ้างมาก็เพื่อจะนำไปสู่การวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวซึ่งเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ทุกข้อเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายจึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 92)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 27,042,860.96 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 20,610,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อ 1และข้อ 2 แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลแรงงานกลางพิจารณาใหม่แล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 89)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 90)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ข้อนำสืบของโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยจงใจทำให้โจทก์เสียหายจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังอย่างดีในการปฏิบัติหน้าที่นั้นแล้วมิใช่เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ ความเสียหายมิได้เกิดจากการกระทำของจำเลย ข้อที่โจทก์อุทธรณ์โดยหยิบยกพฤติการณ์ต่าง ๆเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยขึ้นอ้างอิงเพื่อให้ศาลฎีการับฟังว่าจำเลยได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายนั้น เป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง อันเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ส่วนข้อที่โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยคดีพาดพิงไปถึงความรับผิดของบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่คู่ความในคดี ขัดต่อกฎหมายวิธีพิจารณาความ คำพิพากษาศาลแรงงานกลางจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางตามที่โจทก์ยกขึ้นอ้างในอุทธรณ์เป็นเพียงข้อสนับสนุนประการหนึ่งเพื่อให้เห็นว่าจำเลยมิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อดังกล่าวมาแล้วเท่านั้น ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
