แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า ผู้เสียหายยินยอมร่วมประเวณีด้วยความสมัครใจจึงเป็นการกระทำโดยมิได้มีเจตนาทุจริตเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคแรก จำคุก 4 ปี จำเลยเบิกความรับว่าได้กระทำชำเราผู้เสียหายจริง เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ หนึ่งในสี่คงจำคุก 3 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 74)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงแล้วไม่เชื่อว่าผู้เสียหายจะยินยอมร่วมประเวณีกับจำเลย การที่จำเลยฎีกาว่า ผู้เสียหายยินยอมร่วมประเวณีด้วยความสมัครใจนั้น จึงเป็นการโต้เถียงการรับฟังพยานหลักฐานของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง