คำสั่งคำร้องที่ 764/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ไม่รับฎีกาจำเลย จำเลยเห็นว่า จำเลยได้ยื่นคำร้องขอรอการลงโทษพร้อมบันทึกของผู้เสียหายในคดีนี้ว่าผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะ ดำเนินคดีกับจำเลย พร้อมทั้งจำเลยได้แนบเอกสารดังที่จำเลยฎีกามาแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกวินิจฉัยไว้ และปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญน่าที่ศาลฎีกาจะได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 75) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) วรรคแรกที่แก้ไขแล้วผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความกับจำเลยต่อไปแล้วจึงให้ลงโทษสถานเบา จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 68) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 73)

คำสั่ง ฎีกาของจำเลยที่โต้เถียงว่าศาลอุทธรณ์ภาค 2 ใช้ดุลพินิจ ไม่ลงโทษจำเลยสถานเบาหรือรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยทั้ง ๆ ที่ ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความจำเลยนั้นเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share