คำสั่งคำร้องที่ 728/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีตามฎีกาของจำเลยทั้งสอง เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งเมื่อปรากฏว่าทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกามีจำนวน ไม่ถึงสองแสนบาทจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองในประเด็นที่ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ในประเด็นข้อนี้จำเลยทั้งสองได้ฎีกาโต้แย้งว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลรับฟังคำเบิกความในสำนวนคดีอาญา เป็นการสมัครใจทำร้ายซึ่งกันและกัน โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีนี้ ส่วนในประเด็นที่ว่า คดีขาดอายุความหรือไม่นั้น จำเลยทั้งสองได้ฎีกาโต้แย้งว่า คดีนี้ต้องใช้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ให้โจทก์ต้องฟ้องคดีภายในกำหนด 1 ปี มิใช่ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสอง มาใช้บังคับอันทำให้อายุความที่โจทก์จะฟ้องเป็นคดีแพ่ง สะดุด หยุดลง ฎีกาทั้งสองประเด็นดังกล่าวข้างต้นของจำเลยจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 112)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 26,640 บาท แก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 106)
จำเลยทั้งสอง จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 112)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยทั้งสองทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก สำหรับปัญหาเรื่องอายุความละเมิด ในคดีนี้ ควรจะนับอายุความอย่างไรนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share