แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ที่ 1 ได้ถึงแก่กรรมแล้วเมื่อวันที่5 กรกฎาคม 2536โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 1 มีความประสงค์ที่จะขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 1 ผู้มรณะเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2แล้วให้จำเลยทั้งสอง ส่งมอบโฉนดที่ดินคืนแก่โจทก์ และชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา พร้อมกับโจทก์ที่ 2 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 1 ผู้มรณะ ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาและสั่งนัดไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ ในวันนัดไต่สวนคำร้อง ศาลชั้นต้นตรวจสำนวนแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้โจทก์ที่ 1 ดำเนินคดี อย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาและคำสั่งที่รับฎีกาของโจทก์ที่ 1 และสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องเนื่องจากทนายจำเลยทั้งสองรับว่า โจทก์ที่ 2 เป็นบุตรของโจทก์ที่ 1ผู้มรณะจริงศาลชั้นต้นจึง ให้ส่งคำร้องดังกล่าวมาให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่ง (อันดับ 178,180,189)
คำสั่ง
ปรากฏว่า โจทก์ที่ 1 มรณะก่อนยื่นฎีกาและศาลชั้นต้นได้สั่งเพิกถอนคำสั่งที่ให้รับฎีกาของโจทก์ที่ 1 แล้ว คดีส่วนที่เกี่ยวกับโจทก์ที่ 1 ยังไม่ขึ้นสู่ศาลฎีกา แต่อยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะสั่งให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนผู้มรณะได้จึงให้ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องนี้