แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นฎีกาไว้แล้ว เนื่องจากขณะกระทำผิดจำเลยอายุ16 ปี และกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนอาชีวศึกษาปีที่ 1 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลยอีก 5 ปีทำให้จำเลยต้องเสียอนาคต และเมื่อพ้นโทษออกมาก็ต้องมาเริ่มต้นศึกษาเล่าเรียนใหม่ทั้งที่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน โปรดหยิบยกฎีกาของจำเลยขึ้นพิจารณาพิพากษาโดยเร็วเพื่อเห็นแก่จำเลยซึ่งเป็นเยาวชนและอนาคตของชาติด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และฐานพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุ 16 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งลงโทษฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 72 ทวิ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 2 ปี คำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก1 ปี 4 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,376 อันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 288,80 อันเป็นบทหนักที่สุดฯ จำเลยมีอายุ 16 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี (รวมโทษจำคุกจำเลยทั้งสิ้นมีกำหนด 6 ปี 4 เดือน) นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา (อันดับ 46)
ทนายจำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 47 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
จะเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาให้ตามควรแก่กรณี
