คำสั่งคำร้องที่ 3453-3454/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีทั้งสองสำนวนนี้ทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงฎีกาข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อ 2 และข้อ 8 แม้เป็นข้อกฎหมายแต่ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีจึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสองเห็นว่า คดีทั้งสองสำนวนนี้โจทก์จำเลยพิพาทกันก่อนใช้กฎหมายใหม่บังคับเพราะฉะนั้นทุนทรัพย์ในคดีนี้ จะนำกฎหมายใหม่มาใช้บังคับไม่ได้ และราคาที่ดินพิพาทได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากหากคำนวณทุนทรัพย์ใหม่ในขณะยื่นฎีกาจะต้องเกิน 200,000 บาท อย่างแน่นอน และฎีกาของจำเลย ในข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 เป็นปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงปนกันส่วนฎีกาในข้อ 2 และ 4 เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่มีสาระแก่คดีโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยเรียกจำเลยสำนวนแรกและสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 1และที่ 2 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 53 หมู่ที่ 2 ตำบลเหลอำเภอกะปง จังหวัดพังงาและทำให้ที่ดินอยู่ในสภาพเดิม ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 300 บาท และให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าเสียหายเดือนละ350 บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 24 เมษายน 2532) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะออกจากที่พิพาทแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 110)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล (อันดับ 112)

คำสั่ง
จำเลยทั้งสองไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหา ประกัน มาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง

Share