คำสั่งคำร้องที่ 3270/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์การยกฟ้องกับการยกอุทธรณ์ มีความหมายแตกต่างกัน คดีของโจทก์จึงไม่ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยแล้ว แต่ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง (อันดับ 72)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137,326,90
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 66)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ในปัญหา ข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามกฎหมายก็ตาม แต่การยกอุทธรณ์ของโจทก์ ดังกล่าวของศาลอุทธรณ์ก็มีผลเท่ากับยกฟ้องโจทก์ ลงโทษจำเลย ตามฟ้องไม่ได้อยู่นั่นเอง ดังนั้น แม้ฎีกาของโจทก์ไม่ว่า เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายก็ตามก็ต้องห้ามมิให้ ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขแล้วที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share