แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องต้องห้ามฎีกา ไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โดยโจทก์ได้ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองที่ปิดกั้นทางเข้าที่พิพาทด้านที่โจทก์ใช้เป็นทางเข้าออกอยู่เป็นประจำนี้ จะถือว่าเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุขหรือไม่ และการปิดกั้นทางดังกล่าวทำให้โจทก์เข้าไปในที่ดินพิพาทไม่สะดวกพืชผลของโจทก์จึงเสียหาย ดังนี้ จะถือว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดทำให้เสียทรัพย์ด้วยหรือไม่โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,362,365,83,84,90,91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 53)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 60)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้ฎีกาทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมายตามมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17)พ.ศ. 2532 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์จึงชอบแล้วให้ยกคำร้อง