คำสั่งคำร้องที่ 2186/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าฎีกา ของจำเลยที่ 2 ไม่แจ้งชัดโดยไม่บรรยายถึงเนื้อหาแห่งคำฟ้องและคำให้การ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 ประกอบมาตรา 246,247 จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ในฎีกาของจำเลยที่ 2 แม้จะมิได้บรรยาย รายละเอียดคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลย แต่จำเลยที่ 2 ก็ได้บรรยายเนื้อความประกอบด้วยสภาพแห่งข้อหาคำฟ้อง ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นและคำขอบังคับ ครบองค์ประกอบเป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว โปรดมีคำสั่ง รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ เป็นเงิน 447,105 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปี นับแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2534 เป็นต้นไปจนกว่าจะ ชำระเสร็จ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 94)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 ทราบคำสั่งวันที่ 14 กรกฎาคม 2537 และมายื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2537 เกินกำหนด ระยะเวลา 15 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบ มาตรา 247 ให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 98)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่สั่งไม่รับฎีกาเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2537จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2537เป็นการ ล่วงพ้นกำหนดเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่จำเลยที่ 2ทราบคำสั่ง คำร้องของ จำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วย มาตรา 247 จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share