คำสั่งคำร้องที่ 2067/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 จึงไม่รับ
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยนำเอาข้อความอันเป็นเท็จมาฟ้องโจทก์ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าโจทก์มิได้กระทำความผิด จึงครบองค์ประกอบอันจะเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องและต้องรับโทษ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีของโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 29)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 30)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า จำเลยบรรยายฟ้องไปตามข้อเท็จจริงที่จำเลยเข้าใจและที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฟ้องเท็จ ดังนี้ ต่างเป็นคำพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share