แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย 3 ปี 14 เดือน ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยป่วยด้วยโรคจิต และประสาทเป็นผู้ไม่รู้ผิดชอบ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ตามฟ้องของโจทก์ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 80)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 ประกอบมาตรา 65 วรรคท้าย กระทงหนึ่ง จำคุก 4 ปี และมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7,72 วรรคหนึ่ง จำคุก 2 ปี กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง,72 ทวิ วรรคสอง และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 อีกกระทงหนึ่ง ซึ่งความผิดกระทงนี้เป็นกรรมเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 1 ปี คำให้การจำเลย ในข้อหาพยายามฆ่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม และจำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และพกพาอาวุธปืน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษสองกระทงหลัง ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกข้อหาพยายามฆ่า 2 ปี 8 เดือน ข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน จำคุก 1 ปี ข้อหาพกพาอาวุธปืน จำคุก 6 เดือน รวมสามกระทง จำคุก 3 ปี 14 เดือน ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 77)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)
คำสั่ง
คดีนี้ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลย ขอให้ลงโทษสถานเบา เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง