แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาจึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยไม่ใช่ฎีกาในเนื้อหาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ แต่เป็นการฎีกาในเรื่องที่ศาลไม่ให้เพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 อีกทั้งปัญหาที่จำเลยฎีกาก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายโดยฎีกาว่า การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้แก่จำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 263)
ระหว่างพิจารณา นายวิวัฒน์ รอดเชื้อ ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ลงโทษจำคุก 6 เดือน จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย จำเลยยื่นคำร้องว่าการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลยนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะจำเลยไม่เคยได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าว โดยให้ศาลชั้นต้นกำหนดนัดวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 266)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 263)
คำสั่ง
จำเลยฎีกาว่า ขอให้ศาลเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้ภายใน 15 วันนับแต่วันรับสำเนาฎีกา