แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 125)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์ในสำนวนแรก ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ในสำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 1เรียกจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ในสำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 2 และโจทก์ที่ 3 ตามลำดับ และเรียกจำเลยในสำนวนแรก ซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนหลังว่า จำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 746,935.20 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับจากวันที่ 28 สิงหาคม 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย หากโจทก์ที่ 1 ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนก็ให้โจทก์ที่ 3 ชำระแทนโจทก์ที่ 1 ดังกล่าวข้างต้นเพียงจำนวนเงิน 75,500 บาท ฯลฯ
โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 123,122)
โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ โดยทนายโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ได้นำโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) และสมุดบัญชีเงินฝากประจำธนาคาร รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 843,941.99 บาท ซึ่งเป็นกรรมสิทธิของนายราชธรรมประสานพานิช,นายไพบูลย์ประสานพานิช, ห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.อาร์.วิศวกรรมและนางประลมพ์ประสานพานิช และบุคคลดังกล่าวนี้ได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 107,110,113)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันหรือคนใดคนหนึ่งหรือโจทก์ที่ 3 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่โจทก์แต่ละคนจะต้องรับผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับถึงวันทราบคำสั่งนี้และดอกเบี้ยต่อไปอีกสองปี มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้โจทก์ทั้งสามหรือเฉพาะโจทก์ที่ 3 แล้วแต่กรณีทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง