แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายในประเด็นเรื่องภาระการพิสูจน์ว่าจำเลยต้องนำสืบให้ได้ความว่าโจทก์ทุจริตตามที่ได้กล่าวอ้างไว้จริง โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 48)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงาน หรือใช้ค่าเสียหายและให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าพร้อมทั้งดอกเบี้ย ฯลฯ
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 44)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 45)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า พยานจำเลยที่นำสืบมารับฟังได้ว่าโจทก์ได้นำตั๋วที่จำหน่ายแล้วมาจำหน่ายให้ผู้โดยสารอีก เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ โจทก์อุทธรณ์ว่า พยานจำเลยที่ควรรับฟังมีนายเฉียบริดถาวร เพียงคนเดียว พยานจำเลยอีกสามคนไม่อาจรับฟังเป็นพยานได้ เพราะเป็นพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลังเป็นเรื่องโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง อันเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง
