คำสั่งคำร้องที่ 1778/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ในข้อ 3.1ของจำเลยโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์จำเลยเห็นว่า ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การที่มีผู้ลักเอารถยนต์พร้อมบุหรี่ออกไปจากบริเวณโรงงานยาสูบโดยปลอมใบผ่านหาใช่เป็นผลโดยตรงจากการที่โจทก์ฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยไม่ กรณีเป็นเหตุสุดวิสัยที่โจทก์จะป้องกันได้นั้น เป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 104อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย นอกจากนี้ปัญหาที่ว่าโจทก์ปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงหรือไม่ ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูงเช่นกัน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 52)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน29,700 บาท จ่ายเงินบำเหน็จจำนวน 79,200 บาท รวม 108,900 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกจำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 44)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 48)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจำเลยอุทธรณ์โดยหยิบยกพฤติการณ์ต่าง ๆ ตามคำเบิกความของพยานขึ้นอ้างเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share