คำสั่งคำร้องที่ 1776/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยถึงเอกสารที่จำเลยนำมาซักค้านพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีมูลหนี้ติดค้างกันอยู่ จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้ทรงเช็คในคดีเดิม ทั้ง ๆ ที่เอกสารดังกล่าวยังไม่ได้รับฟังเป็นที่ยุติว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทรงเช็ค โดยคดีต่าง ๆ ที่โจทก์ในคดีนี้ถูกฝ่ายจำเลยฟ้องต่อศาลรวม 12 คดี และอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล และเอกสารดังกล่าวยังมีประเด็นโต้เถียงกันอยู่ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเจาะลึกถึงเอกสารที่จำเลยนำมาซักค้านพยานโจทก์ดังกล่าว จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นและนอกสำนวน คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลสูงควรจะได้วินิจฉัย โปรดกลับคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ที่ 3 ต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้วโดยวิธีปิดหมายตามคำสั่งศาล (อันดับ 44,43)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,90,91,175 และ 177
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้พิพากษากลับ และมีคำสั่งว่าคดีโจทก์มีมูลให้ศาลชั้นต้นรับคดีโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 39)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 41)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์ฎีกาว่า การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยถึงเอกสารที่จำเลยนำมาซักค้านพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในขณะที่เอกสารดังกล่าวยังมีประเด็นโต้เถียงกันในระหว่างการพิจารณาคดีอื่นของโจทก์จำเลย เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่การวินิจฉัยถึงเอกสารตามที่จำเลยส่งประกอบการซักค้านพยานโจทก์และพยานยอมรับความถูกต้องของเอกสารแล้ว ศาลย่อมรับฟังเอกสารนั้นได้ ไม่เป็นเอกสารที่จำเลยอ้างเป็นพยาน และไม่มีกฎหมายห้ามรับฟังเอกสารที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีอื่น ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา แม้ศาลฎีการับไว้วินิจฉัยอีก ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาขึ้นมาจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share