แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า โจทก์ได้ฎีกาว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายแล้ว อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายไม่ใช่ข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 324)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูล จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 319)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 322)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์ฎีกาว่า จำเลยได้กระทำการอันครบองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 แล้ว ซึ่งเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่า จำเลยมิได้กระทำการนั้น ๆ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ ชอบแล้วยกคำร้อง