แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา มีเหตุผลที่จะชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 430)
ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ปฏิบัติตามสัญญาฉบับลงวันที่ 29 กันยายน 2510 ดังกล่าวในคำฟ้องข้อ 2 โดยจัดการให้ผู้เช่าผู้อาศัยในที่ดินตามสัญญาดังกล่าวออกไปจากที่ดินให้หมด โดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ในราคาท้องตลาดและให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ส่งมอบที่ดินว่างเปล่าทั้งแปลงให้โจทก์เพื่อทำการปลูกสร้างตึกแถวและตลาดตามสัญญาฉบับดังกล่าวต่อไป กับห้ามมิให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ยินยอมให้ผู้อื่นเข้าไปก่อสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินแปลงนี้อีกต่อไปให้จำเลยที่ 3 ระงับการปลูกสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินโฉนดเลขที่ 1498 ตำบลโสนลอย(หนองเชียงโคตร) อำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี ส่วนที่ปลูกสร้างลงไปแล้วก็ให้รื้อถอนออกไปจากที่ดินดังกล่าวจนหมดสิ้น หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามที่กล่าวมานี้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 10,273,500 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากจำนวนเงิน 524,000 บาทตามที่โจทก์ขอมานับตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 1ผู้มรณะ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ปฏิบัติตามสัญญาฉบับลงวันที่ 29 กันยายน 2510 โดยจัดการให้ผู้เช่าผู้อาศัยในที่ดินพิพาทเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่อันเป็นตลาดเก่าและเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 1498 ตำบลโสนลอย(หนองเชียงโคตร)อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ออกไปจากที่ดินพิพาทโดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ในราคาท้องตลาด ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2ส่งมอบที่ดินพิพาทในสภาพว่างเปล่าให้โจทก์เพื่อทำการปลูกสร้างตึกแถวและตลาดตามสัญญาดังกล่าวต่อไป ห้ามมิให้จำเลยที่ 1 ที่ 2ยินยอมให้ผู้อื่นเข้าไปก่อสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินพิพาทกับให้จำเลยที่ 3 ระงับการปลูกสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินพิพาทส่วนที่ปลูกสร้างลงไปแล้วให้รื้อถอนออกไปจากที่ดินพิพาทหากจำเลยทั้งสามไม่สามารถปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วได้ ก็ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 2,600,000 บาทแก่โจทก์
โจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 และจำเลยที่ 3 ต่างฎีกา(อันดับ 412,406,409)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 405)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยที่ 1 วางโฉนดที่ดิน 1 ฉบับของจำเลยไว้เป็นหลักประกันและทำหนังสือสัญญาค้ำประกันจนกว่าคดีจะถึงที่สุดไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 260,271)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 1 และที่ 2 หรือคนใดคนหนึ่งหาประกันสำหรับจำนวนเงินค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง