คำสั่งคำร้องที่ 1621/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในเรื่องที่ว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดจากพยานหลักฐานในสำนวนจึงฎีกาเพื่อให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่จึงไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 4,6,9,14,31 จำคุก 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 31 วรรคสองที่แก้ไขแล้วนอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 71)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 73)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยฎีกาว่าโจทก์พิสูจน์ให้เห็นความผิดของจำเลยไม่ได้เพราะพยานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเลย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share