แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลย ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่ง ศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสองเห็นว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้ดำเนินการต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารตึกแถวเลขที่ 571/1ถนนราชปรารภแขวงมักกะสันเขตพญาไท(ราชเทวี) กรุงเทพมหานคร และส่งมอบอาคารตึกแถวที่เช่าในสภาพเรียบร้อย ให้แก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ ในอัตราเดือนละ 2,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสอง และบริวารจะขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวและส่งมอบตึกแถวให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อ 2.1 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนอุทธรณ์ข้อ 2.2และข้อ 2.3 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 จึงไม่รับ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 79)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์บางข้อ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด จะฎีกาต่อไปอีกมิได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของ จำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง