แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีเป็นการฎีกาคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2538ของโจทก์ที่ว่าข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบฟังเป็นยุติในชั้น ไต่สวนมูลฟ้องครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 4พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืน ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์โจทก์ฉบับดังกล่าวว่า เป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งของศาลอุทธรณ์ยังไม่เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198 ทวิ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ฉบับลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2538 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณา ความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ไม่รับอุทธรณ์ (อันดับ 40) โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าอุทธรณ์โจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและ วิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง (อันดับ 42,50) โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 55) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 57)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่ยอมรับอุทธรณ์ของโจทก์ด้วยเหตุว่า เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 คำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198 ทวิ วรรคสาม โจทก์จึงฎีกาโต้แย้งอีกไม่ได้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง