คำสั่งคำร้องที่ 1477/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ข้อที่โจทก์ฎีกา เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยพิมพ์บันทึกคำให้การ เอกสาร จ.2 ขึ้นเองโดยลำพังไม่ได้มีการสอบปากคำของโจทก์โดยตรงและไม่ได้นำไปอ่านให้โจทก์ฟัง เพื่อให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำให้การ เป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย และศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยพยานหลักฐานผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในท้องสำนวนหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 202)
โจทก์ฟ้องและแก้เพิ่มเติมฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,177,184,264,265,268 และ 91ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูลความผิดตามฟ้อง มีคำสั่งให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 198)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 200)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน การที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยพิมพ์บันทึกคำให้การเอกสารหมาย จ.2 ขึ้นเองโดยลำพัง มิได้มีการสอบปากคำโจทก์โดยตรงทั้งไม่ได้อ่านให้โจทก์ฟังเพื่อให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำให้การตลอดจนการที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยพยานหลักฐานผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในท้องสำนวนนั้น เป็นการฎีกาโต้แย้งในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share