แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 147)
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดโจทก์จึงขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันชำระเงิน815,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย โดยจำเลยที่ 1 รับผิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ในต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 5มีนาคม 2526 ในต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2526ในต้นเงิน 200,000 บาท นับแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2526 ในต้นเงิน215,000 บาท นับแต่วันที่ 20 มีนาคม 2526 ในต้นเงิน 100,000 บาทนับแต่วันที่ 26 มีนาคม 2526 และในต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 4 เมษายน 2526 เป็นต้นไป (แต่ดอกเบี้ยในส่วนนี้เมื่อรวมดอกเบี้ยตามเช็คทั้ง 6 ฉบับ คำนวณถึงวันฟ้องจะต้องไม่เกิน97,800 บาท) ส่วนจำเลยที่ 3 รับผิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 5 มีนาคม 2527 ในต้นเงิน100,000 บาท นับแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2527 ในต้นเงิน 200,000 บาทนับแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2527 ในต้นเงิน 215,000 บาท นับแต่วันที่ 20 มีนาคม 2527 ในต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 26มีนาคม 2527 และในต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 4 เมษายน 2527เป็นต้นไป
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ นายเกรียงไกรทีฆมงคลร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะ ศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 145,144)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ แต่จำเลยที่ 1 ไม่วางหลักประกันภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด(อันดับ 106,107)
คำสั่ง
ถ้าจำเลยที่ 1 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยดอกเบี้ยมีกำหนด 8 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง