คำสั่งคำร้องที่ 1238/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์ในประเด็นข้อ 1 ก. เป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมายที่ไร้สาระ ข้อ 1 ข. คือ ข้อที่ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 เลิกจ้างโจทก์เป็นอุทธรณ์นอกคำฟ้องในประเด็นข้อ 3 ข้อที่ว่าโจทก์จำเลยมีข้อตกลงกันว่า จำเลยจะจ่ายผลประโยชน์จากกำไรให้โจทก์ร้อยละสิบหรือไม่ เป็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริง และข้อที่ว่าข้อตกลงดังกล่าวต้องทำเป็นหนังสือหรือไม่เป็นอุทธรณ์นอกคำพิพากษา ในประเด็นข้อ 6 เป็นการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงและในประเด็นข้อ 7 เป็นการอุทธรณ์ข้อกฎหมายที่ไร้สาระ จึงมี
คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ทุกข้อ
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ในประเด็นข้อ 1 ก. เป็นปัญหาว่าศาลแรงงานกลางหยิบยกข้อเท็จจริงผิดไปจากสำนวนความและมิได้วินิจฉัยตามประเด็นที่กำหนดไว้ จึงเป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมายที่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย อุทธรณ์ข้อ 1 ข. มิใช่อุทธรณ์นอกคำฟ้องเป็นอุทธรณ์ที่คู่ความได้หยิบยกว่ากล่าวกันมาแล้วโดยลำดับ นับแต่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสาม อุทธรณ์ในประเด็นข้อ 3 เป็นอุทธรณ์ในเนื้อหาสาระของคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง อุทธรณ์ในประเด็นข้อ 6 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า พยานหลักฐานของคู่ความนั้นจะหมายความ แต่พยานบุคคลเท่านั้นหรือรวมถึงพยานเอกสารด้วย และอุทธรณ์ ในประเด็นข้อ 7 เป็นประเด็นที่ศาลแรงงานกลางกำหนดไว้แต่ศาลแรงงานกลางมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นข้อกฎหมายที่เป็นสาระแห่งคดี โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ทุกข้อของโจทก์ไว้วินิจฉัยต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสามแถลงคัดค้าน (อันดับ 187,184)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายจำนวน 3,818 บาท และค่าจ้างสำหรับการทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีจำนวน 8,250 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องคือวันที่ 2 มีนาคม 2532 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 177)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 181)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงในประเด็นข้อพิพาทที่ 1 ว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่ได้เลิกจ้างโจทก์หาใช่เป็นการหยิบยกข้อเท็จจริงผิดไปจากสำนวนและมิได้วินิจฉัยประเด็นที่กำหนดไว้หรือไม่ครบประเด็นแห่งคดีตามอุทธรณ์ในประเด็น ที่ 1 ข้อ ก. ข้อ ข. ของโจทก์ไม่ จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่เป็นสาระ แก่คดี ส่วนประเด็นที่ 3 ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่มีข้อตกลงจ่ายผลประโยชน์ร้อยละสิบของกำไรแต่ละปี ให้แก่โจทก์และรับฟังในประเด็นที่ 6 ว่า จำเลยที่ 3 ไม่ใช่นายจ้างของโจทก์ โจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำวินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหา ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ส่วนอุทธรณ์ประเด็นที่ 7 เป็นผลมาจากอุทธรณ์ ประเด็นที่ 1 ที่ 3 ที่ 6 เมื่ออุทธรณ์ในประเด็น ดังกล่าวต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่จะรับอุทธรณ์ประเด็นที่ 7 ด้วยศาลแรงงานกลางมีคำสั่ง ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share