คำสั่งคำร้องที่ 1176/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีทุกสำนวนราคา ทรัพย์สินที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท และฎีกา ของโจทก์เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงทั้งสิ้น จึงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ไม่รับฎีกาของโจทก์ทุกสำนวน
โจทก์เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทุกสำนวนเรื่องละเมิด และเรียกเงินค่าเสียหายจากจำเลยแต่ละสำนวนคิดเป็นเดือน เป็นเงินค่าเสียหายเกินกว่าหนึ่งหมื่นบาท ทรัพย์สินพิพาท จึงอาจนำออกให้เช่าได้เกินกว่าหนึ่งหมื่นบาท โจทก์ จึงฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งมาตรา 248 และฎีกาโจทก์ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากพยานหลักฐานที่คู่ความ นำสืบ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 ถึงที่ 8 แถลงคัดค้าน(อันดับ 124)
คดีทั้ง 6 สำนวนนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับคดีอื่น อีก 2 สำนวน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขดำที่ 10886/2531 จำเลยที่ 2 ในคดีหมายเลขดำที่ 11004/2531จำเลยที่ 3 และที่ 4 ในคดีหมายเลขดำที่ 11470/2531จำเลยที่ 5 ในคดีหมายเลขดำที่ 18375/2531 จำเลยที่ 6ในคดี หมายเลขดำที่ 23621/2531 จำเลยที่ 7 ในคดีหมายเลขดำที่ 23620/2531 และจำเลยที่ 9 ในคดีหมายเลขดำที่ 23625/2531รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างส่วนทีต่อเติมรุกล้ำกับเลิกครอบครอง ใช้ประโยชน์ในที่ดินและขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 19224 ตำบลทุ่งมหาเมฆ(บ้านทวาย) อำเภอยานนาวา (บางรัก) จังหวัดพระนคร และชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 800,400,600,600,200,200 และ 200 บาท นับแต่วันที่ 20 มิถุนายน,20 มิถุนายน,21 มิถุนายน,25 สิงหาคม,28 ตุลาคม,1 พฤศจิกายน และ 28 ตุลาคม 2531 ตามลำดับ จนกว่าจะได้ดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้น ให้จำเลยที่ 8 รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างส่วนที่ได้ ต่อเติมรุกล้ำกับเลิกครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดินและขนย้าย ทรัพย์สินของจำเลยออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 15227 ตำบลทุ่งมหาเมฆ(บ้านทวาย) อำเภอยานนาวา (บางรัก) จังหวัดพระนคร และชดใช้ ค่าเสียหายเดือนละ 300 บาท นับแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2531จนกว่าจะดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำนวนที่ เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 และที่ 8นอกจากนี้แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 120)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 121)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำละเมิดโดย ปลูกสร้างต่อเติมอาคารรุกล้ำที่ดินพิพาทของโจทก์ ขอให้บังคับ จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ต่อเติมรุกล้ำและขนย้ายทรัพย์สิน ออกไปจากที่พิพาท กับใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ จำเลยให้การ ต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้ทำละเมิด ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามราคาของที่ดินพิพาทร่วมกับค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องจากจำเลย ซึ่งจำนวนทุนทรัพย์ในแต่ละสำนวนที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท และฎีกาของโจทก์เป็น ฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาควาาม แพ่ง มาตรา 248 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12)พ.ศ. 2534 มาตรา 18 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share