คำสั่งคำร้องที่ 1139/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฎีกาว่าจำเลยห้ามมิให้ใช้เงินตามเช็คพิพาทโดยเจตนาทุจริตเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ข้อที่ศาลอุทธรณ์อ้างว่านายสมบูรณ์เป็นเจ้าของโรงงานทำเก้าอี้ที่จำเลยซื้อและชำระราคาด้วยเช็คพิพาท นายสุมิสยึดโรงงานแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายสมบูรณ์ยักยอกเก้าอี้และเช็คพิพาทแล้วไม่ไปที่โรงงานอีก เป็นการรับฟังข้อเท็จจริงตามคำเบิกความพยานจำเลย ดังนั้น ฎีกาโจทก์ที่ว่าศาลอุทธรณ์หยิบยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นการฎีกาดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกัน เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ส่วนฎีกาปัญหาข้อกฎหมายของโจทก์ที่มิได้ระบุรายการว่าเป็นข้อกฎหมายในเรื่องใดโดยชัดเจนในฟ้องฎีกา เป็นการไม่ชอบต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา195 ประกอบมาตรา 225

Share