แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติแล้ว ฎีกาของจำเลยจึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218,219ไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและไม่ต้องห้ามฎีกาแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 86)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยได้พยายามบรรเทาผลร้ายโดยชำระหนี้ ให้แก่โจทก์บางส่วนบ้างแล้ว จึงเห็นสมควรลงโทษจำเลยสถานเบา จำคุก 9 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 เดือน 15 วัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 6 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือนนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 82)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 86)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังยุติแล้วว่าจำเลยออกเช็คเป็นการชำระหนี้ จำเลยจะโต้เถียงเป็นอย่างอื่นหาได้ไม่ ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง