คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยานโจทก์เป็นครั้งแรก โจทก์ยื่นคำร้องว่าทนายป่วยมาศาลไม่ได้ พร้อมทั้งส่งใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน ปรากฏว่าโจทก์มิได้ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานไว้ และวันสืบพยานนั้นตัวโจทก์เดินทางไปต่างจังหวัด ศาลสอบถามจำเลย จำเลยแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร ตามพฤติการณ์ทั้งหมดนี้ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนสืบพยานโจทก์ และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบ โจทก์ได้ยื่นคำร้องชี้แจงเหตุผลในการที่โจทก์มีความจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการสืบพยาน ขอให้ศาลนัดไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์เข้าสืบ เช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้แล้ว โจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการจดทะเบียนและห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าซึ่งมีคำว่า “AIWA (ไอวา)” โดยอ้างว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยได้จดทะเบียนการค้าโดยสุจริต
วันชี้สองสถาน ศาลให้โจทก์นำสืบก่อน
ถึงวันสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องว่าทนายโจทก์ป่วยมาศาลไม่ได้ ขอเลื่อนจำเลยแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
ศาลมีคำสั่งว่า โจทก์ไม่มีพยานมาศาลเลย โจทก์ไม่ได้ขอหมายเรียกพยานและมิได้นำพยานมา การขอเลื่อนเช่นนี้เป็นการประวิงความ ไม่อนุญาตให้เลื่อน และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลย
ถึงวันสืบพยานจำเลย จำเลยแถลงว่าไม่ติดใจจะทำการสืบพยาน
ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่ได้ประวิงความ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ขอเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ไปนั้น พอจะถือได้หรือไม่ว่าโจทก์ประวิง เพื่อให้การพิจารณาล่าช้าอันจะเป็นเหตุให้ศาลต้องสั่งงดสืบพยานโจทก์ จำเลยฎีกามาว่า การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนโดยอ้างว่าทนายโจทก์ป่วยในวันนัดสืบพยานนั้น โจทก์มิได้เตรียมขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานไว้ และวันนั้นตัวโจทก์เองก็เดินทางไปต่างจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ย่อมแสดงว่าทนายโจทก์ตั้งใจจะป่วยในวันนัดสืบพยาน ในข้อนี้เห็นว่าเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องว่า ทนายโจทก์ป่วยพร้อมทั้งส่งใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐาน จำเลยก็มิได้คัดค้าน กลับแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร จำเลยเพิ่งจะมาอ้างเอาในตอนหลังว่าทนายโจทก์ไม่ป่วย และที่จำเลยอ้างว่าตัวโจทก์เดินทางไปในต่างจังหวัดซึ่งดูประหนึ่งว่าทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าทนายโจทก์จะป่วย ในวันนัดสืบพยานนั้นตามคำร้องของโจทก์ก็ได้กล่าวไว้ว่า ตัวโจทก์ได้พบทนายโจทก์ป่วยอยู่ก่อนวันนัดสืบพยาน พฤติการณ์ทั้งหมดยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์แกล้งประวิงคดีให้ล่าช้า
จำเลยฎีกามาอีกข้อหนึ่งว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา และโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านไว้เพื่ออุทธรณ์และฎีกาต่อไปในข้อนี้ปรากฏว่าหลังจากศาลมีคำสั่งแล้ว โจทก์มิได้ยื่นคำร้องลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๐๙ ชี้แจงเหตุผลในการที่โจทก์มีความจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการสืบพยาน ขอให้ศาลนัดไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์เข้าสืบ กรณีจึงถือได้เท่ากับว่าโจทก์ได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไว้แล้ว โจทก์จึงอุทธรณ์ฎีกาได้
ฎีกาของจำเลยทุกข้อดังที่วินิจฉัยมา ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงพร้อมกับพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นศาลฎีกานี้ให้ศาลชั้นต้นเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

Share