คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกที่พิพาทให้จำเลย แต่ให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์กินจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทตามข้อกำหนดในพินัยกรรม จะถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือเพื่อตัวโจทก์ไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้สิทธิครอบครอง
การทีโจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่ดินซึ่งเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นไว้โดยพินัยกรรมระบุให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินนั้น ถือว่าโจทก์อยู่ในฐานะผู้อาศํยสิทธิของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นนานเพียงใด ก็ถือว่าเป็นการปกครองแทนผู้เป็นเจ้าของ จะยกอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันผู้เป็นเจ้าของไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับสามีได้ซื้อที่ดินไว้เมือ พ.ศ. ๒๔๗๓ แล้วได้ครอบครองและเก็บผลประโยชน์ตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๔๙๙ สามีโจทก์ตาย โจทก์คงครอบครองยึดถือที่ดินดังกล่าวต่อมา เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๐๘ จำเลยได้ร้องขอแบบ น.ส.๓ อ้างว่าสามีโจทก์ทำพินัยกรรมยกให้ โจทก์จึงไปคัดค้านแต่ไม่ตกลงกัน ขอให้แสดงว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์
จำเลยให้การว่า สามีโจทก์ทำพินัยกรรมยกที่ดินดังกล่าวให้ แต่ให้โจทก์อาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อาศัยและเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์พิพาทก็เพราะโจทก์ปฏิบัติตามพินัยกรรม โจทก์มากล่าวอ้างภายหลังว่าเป็นทรัพย์ของโจทก์เป็นการไม่ชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า พินัยกรรมของสามีโจทก์สมบูรณ์เพียง + ส่วน ที่พิพาทจึงเป็นของโจทก์ ๑ ส่วน แต่โจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งจึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนแก้เป็นให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาท ๑ ใน ๓ เป็นของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีเพียงสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทส่วนที่เป็นมรดกของสามีโจทก์ซึ่งตกได้แก่จำเลยตามพินัยกรรมไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทจึงอยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของจำเลยผู้เป็นเจ้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์มรดกมานานเพียงใดก็ได้ชื่อว่าเป็นการปกครองแทนจำเลยผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงตามพินัยกรรม โจทก์จะยกอายุความมรดกตามมาตรา ๑๗๕๔ ขึ้นใช้ยันจำเลยไม่ได้ และเห็นว่าการที่
โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทส่วนที่เป็นมรดกของสามีโจทก์ตลอดมาจนถึงปัจจุบันเป็นการใช้สิทธิอยู่อาศัยและเก็บกินผลประโยชน์ตามข้อกำหนดในพินัยกรรม จะถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือเพื่อตัวโจทก์อยู่อีกหาได้ไม่ โจทก์จึงไม่มีทางได้สิทธิครอบครอง
พิพากษายืน

Share