คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะมิได้ให้การรับในข้อต้องโทษ และพ้นโทษในวันที่ศาลสอบคำให้การจำเลย แต่ก็ได้ปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยซึ่งได้อ้างตัวเองเป็นพยานต่อศาลว่าจำเลยเคยต้องโทษตามฟ้องจริง คำว่า ตามฟ้อง นั้นต้องหมายความถึงวันพ้นโทษของจำเลยด้วย เพราะโจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องแล้วว่า จำเลยพ้นโทษมา และยังได้ท้าวถึงประวัติอาชญากรซึ่งโจทก์ส่งมาเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องอีก ฉะนั้น เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษต้องฟ้องจริง ก็เท่ากับจำเลยรับให้ข้อพ้นโทษในคดีก่อนด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์และขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙, ๘๓ และ ๙๒ กับขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ให้แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่ามีการชิงทรัพย์กัน และฟังว่าจำเลยมิได้กระทำผิดพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาของโจทก์ ส่วนข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษของจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์มิได้นำสืบในประเด็นข้อนี้ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙, ๘๓ ให้จำคุก ๗ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ส่วนข้อให้เพิ่มโทษให้ยก
จำเลยฎีกาขอให้ศาลยกฟ้อง โจทก์ฎีกาขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้กระทำผิดตามฟ้อง แต่มีเหตุบรรเทาโทษ จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ส่วนข้อที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยนั้นเห็นว่า แม้จำเลยจะมิได้ให้การรับในข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษในวันที่ศาลสอบคำให้การจำเลยก่อนแต่ก็ได้ปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยซึ่งได้อ้างตัวเองเป็นพยานต่อศาลว่า จำเลยเคยต้องโทษตามฟ้องจริง คำว่า ตามฟ้อง นั้น ต้องหมายความถึงวันพ้นโทษของจำเลยด้วย ทั้งนี้ เพราะโจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องแล้วว่าจำเลยพ้นโทษมาเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๘ และยังได้ท้าวถึงประวัติอาชญากรซึ่งโจทก์ส่งมาเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องอีก ฉะนั้น เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษตามฟ้องจริง ก็เท่ากับจำเลยรับเข้ามาว่า จำเลยเพิ่งพ้นโทษในคดีก่อนเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๘ ซึ่งเป็นเวลาก่อนการกระทำผิดครั้งนี้เพียง ๓ เดือนเศษเท่านั้นด้วย พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๔, ๘๓ จำคุก ๗ ปี เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ อีก ๑ ใน ๓ จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ เสีย ๑ ใน ๓ ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด จึงไม่เพิ่มไม่ลดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๔ คงจำคุกไว้ ๗ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share