แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรได้ระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรแล้ว คณะกรรมการจะต้องระบุเขตท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมดเป็นท้องที่สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร เมื่อคณะกรรมการยังมิได้กำหนดให้ปรากฏชัดแล้วประกาศห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตเข้าไปเขตท้องที่ที่จะสั่งห้าม จึงแสดงว่ามิได้ปฏิบัติการตามลำดับก่อนหลังดังกฎหมายกำหนดไว้ ประกาศของคณะกรรมการในกรณีนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ . ๒๔๙๐ มาตรา ๖, ๘, ๑๐, ๑๗ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙ ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดนราธิวาส ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๑๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ และขอให้สั่งคืนโคของกลางแก่จำเลย และสั่งจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ประกาศของคณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดนราธิวาส ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควร แต่เพื่อป้องกันมิให้ลักลอบนำโคกระบือมีชีวิตไปยังประเทศมาเลเซีย ประกาศของคณะกรรมการจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายที่อาศัยเป็นหลัก ใช้บังคับไม่ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ประกาศของคณะกรรมการมิได้ระบุห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ประกาศนั้นในเขตท้องที่ใด ข้อความในข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะกรรมการเป็นเพียงกำหนดเขตห้ามการเคลื่อนย้ายสิ่งของ อันเป็นการวางระเบียบหรือห้ามการส่งออกไปนอกหรือนำเข้ามาในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๘ (๖) เท่านั้น จึงแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาสมิได้ปฏิบัติตามลำดับก่อนหลังดังที่กฎหมายกำหนดไว้ ประกาศคณะกรรมการในคดีนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายืน ยกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ประกาศของคณะกรรมการซึ่งมีข้อความว่า
เรื่องกำหนดประเภทสิ่งของและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญํติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาส ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาส ฉบับที่ ๑/๒๕๐๖ ลงวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๐๖
ข้อ ๒ ชื่อและประเภทสิ่งของที่ควบคุมและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรตามประกาศนี้คือ
ก. โคมีชีวิต
ข. กระบือมีชีวิต
ข้อ ๓ ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายโคและกระบือมีชีวิตเข้าไปในจังหวัดนราธิวาสเว้นแต่จะได้รับหนังสืออนุญาตจากประธานกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรหรือผู้รักษาการแทน ฯลฯ นั้น
ประกาศตามข้อ ๒ ได้ประกาศโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ข้อความในมาตรา ๘ มุ่งหมายให้คณะกรรมการมีอำนาจระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของนั้นในเขตท้องที่ที่อยู่ในอำนาจท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมด เมื่อปฏิบัติดังกล่าวนี้แล้ว จึงให้มีอำนาจสั่งการเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามตามที่เห็นสมควร และในคดีนี้จะเห็นได้จากประกาศข้อ ๓ ซึ่งสั่งการโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๘ (๖)
ส่วนที่ว่าประกาศของคณะกรรมการได้ระบุห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรทั่วทุกเขตท้องที่ในจังหวัดนราธิวาสหรือไม่นั้น เห็นว่าประกาศของคณะกรรมการมิได้ระบุห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมดของจังหวัดนราธิวาส ตามประกาศข้อ ๒ คงมีข้อความเพียงระบุชื่อประเภทสิ่งของและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร จะอนุโลมข้อความในประกาศข้อ ๒ ว่าเป็นการกำหนดเขตท้องที่ที่ควบคุมและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร ก็ปรากฏชัดว่าข้อความตามประกาศข้อ ๓ เป็นเรื่องที่คณะกรรมการได้สั่งการไปตามมาตรา ๘ (๖) คือวางระเบียบหรือห้ามการส่งออกไปนอกหรือนำเข้ามาในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ไม่ใช่การกำหนดท้องที่ที่สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร
ในประกาศของคณะกรรมการข้อ ๔ ข้อ ๕ ได้กำหนดเขตท้องที่ที่อยู่ในอำนาจออกเป็นหลายท้องที่ ฉะนั้นเมื่อคณะกรรมการได้ระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรแล้ว คณะกรรมการจะต้องระบุเขตท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมดเป็นท้องที่สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร เมื่อคณะกรรมการยังมิได้กำหนดให้ปรากฏชัด แล้วประกาศห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตเข้าไปในจังหวัดนราธิวาส จึงแสดงว่ามิได้ปฏิบัติการตามลำดับก่อนหลังดังกฎหมายกำหนดไว้ ประกาศของคณะกรรมการในกณีนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.