แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,90,91,309,310,340,340 ตรี,358,359(2)(3),371 ฯลฯ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ,55,78 ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 วรรคสอง,310 วรรคแรก,340 ประกอบมาตรา 340 ตรี,359(2)(3) เรียงกระทงลงโทษ ฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพเป็นกรรมเดียว กับฐานหน่วงเหนี่ยวกักขัง ลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักจำคุก2 ปีฐานปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนจำคุก 24 ปี ฐานทำให้เสียทรัพย์จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 1ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8,72 ทวิประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตจำคุก 2 ปี และฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาตลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฯลฯ ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักกว่าประมวลกฎหมายอาญา จำคุก 1 ปี รวมทั้งสิ้นเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 31 ปี คำรับสารภาพของจำเลยที่ 1ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนแม้รับสารภาพไม่หมดทุกฐานความผิดก็เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด23 ปี 3 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ แต่ให้ขังจำเลยที่ 1ไว้ระหว่างฎีกา
โจทก์ฎีกา (อันดับ 76)
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 80)
คำสั่ง
อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ตีราคาค่าประกันสามแสนบาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป
