คำสั่งคำร้องที่ 1506/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงไม่รับ
โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้น เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งโจทก์ร่วมได้ฎีกาโต้เถียงโดยตรงว่า การกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นเรื่องที่จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กัน จำเลยจะอ้างว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่ได้ ซึ่งในชั้นอุทธรณ์โจทก์ร่วมได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายนี้ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยให้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์และจำเลยต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ151,154)
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80,91 ฯลฯ
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และโจทก์ร่วม ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 149)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 151)

คำสั่ง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยป้องกันพอสมควรแก่เหตุ โจทก์ร่วมฎีกาโต้เถียงว่า กรณีต้องฟังว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share