คำสั่งคำร้องที่ 1505/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 3 เห็นว่า คำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การของจำเลยที่ 3โดยอ้างว่าไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การนั้นเป็นคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(5) การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับหรือคืนคำคู่ความดังกล่าวจึงไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 3โดยมิได้พิจารณาเนื้อหาของคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง คำสั่งดังกล่าวจึงไม่เป็นที่สุด จำเลยที่ 3 จึงฎีกาได้ภายใน 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 3 ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 126 แผ่นที่ 3)
จำเลยที่ 3 ชำระค่าขึ้นศาลมา 200 บาท
สืบเนื่องจากจำเลยที่ 3 ไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนดศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การนัดสืบพยานโจทก์
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ 3เป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 3(อันดับ 90)
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 91)
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า พิเคราะห์แล้ว คำร้องของจำเลยที่ 3ที่ขออนุญาตยื่นคำให้การนั้น มิใช่คำคู่ความ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ 3 คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา และมิใช่เป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ (อันดับ 112)
จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 118)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 120)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำสั่งเกี่ยวกับคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การของจำเลยที่ 3 ไม่ใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 อันคู่ความจะอุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228แต่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ซึ่งคู่ความจะอุทธรณ์ในทันทีไม่ได้ ฉะนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 3 และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ในกรณีเช่นนี้จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236จำเลยที่ 3 จะฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้นไม่ได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 3 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องคืนค่าขึ้นศาลโดยหักไว้เป็นค่าคำร้อง 40 บาท

Share