คำสั่งคำร้องที่ 1128/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การเป็นฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ปรากฎว่าจำเลยโต้แย้งคำสั่งศาลไว้ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ประกอบมาตรา 247 ส่วนฎีกาในเรื่องอื่นล้วนแต่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ปรากฎว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 200,000 บาทไม่ปรากฎความเห็นแย้ง หรือคำรับรองให้ฎีกา จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยปัญหาข้อกฎหมาย และการที่จำเลยได้ยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ โดยกล่าวอ้างว่ายื่นไม่ทันเพราะจำเลยป่วย ซึ่งเป็นการคัดค้านคำสั่งของศาลที่ให้จำเลย ขาดนัดยื่นคำให้การนั้นแล้ว โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 51)
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ให้จำเลยโอนที่ดินบางส่วน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 24 ตั้งอยู่ที่ตำบล ชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ ให้แก่โจทก์หากโอนไม่ได้ให้ชดใช้ราคาจำนวน 50,000 บาท ให้แก่โจทก์ แทน คำขออื่นให้ยกเสีย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 49)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 51)

คำสั่ง
ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่น คำให้การขอให้ ศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่ง ขาดนัดยื่นคำให้การของศาลไว้ คำร้องขอยื่นคำให้การซึ่งยื่น ไว้ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งดังกล่าว หาใช่คำโต้แย้งหรือคัดค้าน ไม่ ส่วนฎีกาที่ว่าจำเลยมิได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทและ รับชำระเงินตามฟ้อง จำเลยจึงไม่ต้องโอนที่ดินให้โจทก์ทั้ง ราคาที่ดินก็ไม่เกิน 10,000 บาทนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share