คำสั่งคำร้องที่ 1089/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 2 ที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกัน โดยชอบด้วยกฎหมายหรือเกินสมควรแก่เหตุเป็นปัญหาข้อกฎหมายและฎีกาข้อ 3 ที่ว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังพยานหลักฐานไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ โจทก์ เบิกความขัดแย้งกันในสาระสำคัญแห่งคดี แต่ศาลหาได้หยิบยก คำเบิกความของพยานโจทก์ในข้อแตกต่างเหล่านั้นมาวินิจฉัย ชั่งน้ำหนักแล้วพิพากษายกฟ้องซึ่งพยานโจทก์มีพฤติการณ์ อันควรสงสัยว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ ศาลต้องยกประโยชน์ แห่งข้อสงสัยให้เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 227 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายเช่นกัน โปรดมี คำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อัน 65)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 68,69 ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี และผิด ตามมาตรา 371 ให้ปรับ 100 บาท คำขออื่นให้ยก ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 64)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 65)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายกับพวกเอารถยนต์ของบริษัท ต.รวมโชค จำกัด ไปใช้โดยพลการเมื่อกลับมาจำเลยซึ่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้ายามของบริษัทดังกล่าวไปต่อว่าพวกผู้ตาย 3 คนลงจากรถมาชกต่อยกับ จำเลย ผู้ตายตามลงมาจำเลยใช้อาวุธปืนพกที่ติดตัวมายิง ผู้ตาย 3 นัด เป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยฎีกา ข้อ 2 ว่า ผู้ตายถือฆ้อน ตีตะปูลงมาจะทำร้ายจำเลย จำเลยใช้ อาวุธปืนยิงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นฎีกา โต้เถียงการฟังข้อเท็จจริงของศาล ฎีกาข้อ 2 ของจำเลยเป็น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อ 3 จำเลยโต้แย้งว่า ประจักษ์พยานโจทก์เบิกความขัดแย้งกันในข้อสาระสำคัญแห่งคดี ต้องชั่งน้ำหนักคำพยานอย่างรอบคอบ ยกประโยชน์แห่งความสงสัย ให้เป็นคุณแก่จำเลยกับขอให้ลงโทษจำเลยสถานเบา รอการลงโทษ หรือรอการกำหนดโทษให้จำเลย เป็นฎีกาที่โต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลกับโต้เถียงดุลพินิจในการ ลงโทษของศาลว่าสมควรเพียงใด ฎีกาดังกล่าวเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ฎีกาข้อ 2 ข้อ 3 ของจำเลยต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งที่ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share