คำสั่งคำร้องที่ 557/2541

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขออนุญาตให้ขยายเวลา ยื่นฎีกาเมื่อพ้นกำหนดเวลาฎีกาแล้ว ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต ให้นำ คำร้อง เป็นกรณีที่ต้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปยัง ศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคหนึ่ง การที่จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตขยายเวลายื่นฎีกาเมื่อสิ้นระยะเวลายื่นฎีกาแล้ว 1 วัน โดยอ้างว่ามีเหตุสุดวิสัยเนื่องจากในวันครบกำหนดอายุฎีกาทนายจำเลยไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัด และได้เดินทางกลับแล้วรถยนต์ส่วนตัวเสียกลางทางเป็นเหตุให้ไปถึงศาลชั้นต้นเมื่อเวลา 17.15 นาฬิ กา ซึ่งศาลได้ปิดทำการแล้ว เมื่อข้อที่จำเลยอ้างนั้นเป็นการเลื่อนลอยกรณีจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ให้จำคุก 18 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ต่อมาในวันเดียวกันจำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาดังกล่าว
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา
ศาลฎีกาสั่งว่า “คดีนี้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขออนุญาตให้ขยายเวลายื่นฎีกาเมื่อพ้นกำหนดเวลาฎีกาแล้วศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้ยกคำร้อง อันเป็นกรณีที่ต้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคหนึ่งแต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยคำร้องนี้ไปเลยโดยไม่จำต้องย้อน สำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยสั่งเสียก่อน
การที่จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตขยายเวลายื่นฎีกาเมื่อสิ้นระยะเวลายื่นฎีกาแล้ว 1 วัน โดยอ้างว่ามีเหตุสุดวิสัยเนื่องจากในวันที่ 15 มีนาคม 2541 ทนายจำเลยไปงานศพญาติ ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ และได้เดินทางกลับแล้วรถยนต์ส่วนตัวเสียกลางทาง เป็นเหตุให้ไปถึงศาลจังหวัดขอนแก่นเวลา 17.15 นาฬิกา ซึ่งศาล ได้ปิดทำการแล้วนั้น เห็นว่า ข้อที่จำเลยอ้างนั้นเลื่อนลอย และไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ที่ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง”

Share