แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นข้าราชการและเป็นเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้งแก้จำนวนคะแนนเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งในเอกสารที่แจ้งผลการเลือกตั้งถึงนายอำเภอเนื่องจากถูกบีบบังคับด้วยอำนาจปืนถือว่าเป็นการกระทำด้วยความจำเป็นพอสมควรแก่เหตุย่อมได้รับการยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามเป็นข้าราชการและเป็นเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้งได้สมคบกันเปิดหีบบัตรเลือกตั้งแล้วแก้คะแนนเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนหนึ่งในเอกสารให้สูงขึ้นจากความเป็นจริง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141, 264, 265, 83, 90, 91 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482 มาตรา 28, 58, 59, 68 กับขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยด้วย
จำเลยที่ 1-2 ปฏิเสธ
จำเลยที่ 3 ปฏิเสธว่าไม่ได้สมคบกับจำเลยอื่น แต่รับว่าได้แก้ตัวเลขในเอกสารตามฟ้องจริงโดยถูกจำเลยที่ 1-2 ใช้อำนาจบังคับไม่มีเจตนาทุจริต
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทั้งสามผิดตามฟ้อง แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 1 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 3 กำหนด 1 ปี ลด 1 ใน 3 เหลือ 8 เดือน คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยที่ 1-2 อุทธรณ์ว่า ไม่ได้สมคบกันกระทำผิด
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ว่า ได้ทำไปเนื่องจากถูกจำเลยที่ 1-2 ใช้ปืนบังคับ ไม่มีเจตนาทุจริต
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1-2 ทำผิดจริงตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 3 ได้กระทำลงไปด้วยความจำเป็นเพราะอยู่ในที่บังคับภายใต้อำนาจปืนของจำเลยที่ 1-2 ซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อันตนมิได้ก่อขึ้นและเป็นการกระทำอันพอสมควรแก่เหตุจำเลยที่ 3 ไม่ควรได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 3 นอกนี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 3 แก้คะแนนเนื่องจากการถูกบีบบังคับด้วยอำนาจปืนของจำเลยที่ 1 เห็นว่าจำเลยที่ 3 ได้กระทำลงเพื่อให้พ้นจากภยันตรายและเป็นการกระทำด้วยความจำเป็นพอสมควรแก่เหตุควรได้รับการยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67
ศาลฎีกาพิพากษายืน