แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัทจำกัดที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งไว้แล้วแต่ไม่ได้ออกใบหุ้นเลยนั้นการโอนขายหุ้นให้แก่กันในระหว่างผู้ถือหุ้นจึงหาจำต้องทำเป็นหนังสือไม่
การมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนของทางการนั้นเป็นแต่ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายซึ่งอาจนำสืบหักล้างได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นบริษัทจำกัด มีจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นกรรมการผู้จัดการตั้งแต่ตั้งบริษัทมา จำเลยทั้งสามมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับและระเบียบที่วางไว้ ทั้งการค้าก็ทำไปมีแต่ขาดทุนและยังโน้มเอียงไปในทางไม่สุจริต จำนวนผู้ถือหุ้นของบริษัทก็ลดน้อยลงเหลือเพียง 6 คน เป็นการขัดต่อกฎหมาย โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นซึ่งมีส่วนได้เสียในบริษัท ได้ทักท้วงแล้ว แต่จำเลยก็เพิกเฉยเสีย จึงขอให้ศาลสั่งเลิกบริษัทจำเลยที่ 1 และตั้งโจทก์หรือผู้ที่ศาลเห็นสมควรเป็นผู้ชำระบัญชี
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ได้โอนขายหุ้นของโจทก์ให้จำเลยที่ 2 ไปแล้ว โจทก์จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในบริษัทจำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เลิกบริษัทและชำระบัญชีได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาได้ความว่า โจทก์จำเลยได้ร่วมกันตั้งบริษัทขึ้นบริษัทหนึ่งใช้ชื่อว่า บริษัทโรงเลื่อยจักร ส.และบุตร จำกัดโจทก์ถือหุ้น 500 หุ้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 ถือหุ้นคนละ 500 หุ้นเมื่อจดทะเบียนการจัดตั้งบริษัทไว้แล้ว ทางบริษัทหาได้ทำใบหุ้นมอบให้เป็นคู่มือแก่ผู้ถือหุ้นไม่ ปัญหามีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องขอเลิกบริษัทหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ได้โอนขายหุ้นของโจทก์ให้แก่จำเลยที่ 2 แล้ว เมื่อได้ความว่าการตั้งบริษัทรายนี้ไม่ได้ออกใบหุ้นเลย การโอนหุ้นของโจทก์หาจำต้องได้รับความยินยอมของบริษัทและไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 ระบุไว้ว่า การโอนหุ้นจะต้องได้รับความยินยอมและต้องทำเป็นหนังสือเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้น การโอนของโจทก์ให้แก่จำเลยที่ 2 จึงเป็นการโอนที่สมบูรณ์ ถึงแม้จะไม่ได้รับความยินยอมของบริษัทและไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ส่วนการมีชื่อในสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นของกรมทะเบียนการค้า เห็นว่า แม้จะมีชื่อโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ก็เป็นแต่ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายซึ่งคู่ความมีสิทธินำสืบข้อเท็จจริงหักล้างได้ เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้โอนขายหุ้นให้แก่จำเลยที่ 2 ไปแล้วข้อสันนิษฐานดังกล่าวก็ตกไป เมื่อฟังว่าโจทก์ได้โอนหุ้นให้แก่จำเลยที่ 2 แล้วโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องขอเลิกบริษัท ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน