คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2253/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเล่นแชร์ เป็นสัญญาชนิดหนึ่งเกิดขึ้นจากความตกลงระหว่างผู้เล่น ไม่มีนักกฎหมายบังคับว่าจะต้องทำสัญญาหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ คงบังคับกันได้ตามหลักสัญญาทั่วไป เมื่อพฤติการณ์เป็นที่เข้าใจกันระหว่างผู้เล่นว่า จำเลยซึ่งเป็นนายวงตกลงยอมเป็นผู้รับผิดชอบใช้เงินแก่ลูกวงที่ยังไม่ได้ประมูล (เปีย) ในเมื่อวงแชร์ล้ม ดังนี้ เมื่อวงแชร์ล้มจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นลูกวงและยังมิได้ประมูล
หากจะมีมติของคณะรัฐมนตรีห้ามข้าราชการและพนักงานองค์การของรัฐเล่นแชร์จริง ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับบัญชาทางวินัยเท่านั้นการเล่นวงแชร์หาได้มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามโดยกฎหมาย หรือขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันจะทำให้สัญญาตกเป็นโมฆะไม่
แม้โจทก์เปียแชร์วงอื่นซึ่งจำเลยเป็นนายวงได้ไปแล้วและโจทก์มีกำไรก็ตามก็เป็นเรื่องของแชร์วงนั้น ๆ จะให้นำกำไรนั้นมาหักออกจากจำนวนเงินที่โจทก์เสียหายและจำเลยต้องชดใช้ในวงพิพาพไม่ได้เพราะเป็นสัญญาต่างรายกัน ผู้เข้าเล่นแตกต่างกันไปทั้งจำนวนและผู้เข้าเล่นตลอดจนระยะเวลา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องใจความว่า เมื่อระหว่างเดือนตุลาคม 2512 ถึงเดือนกรกฎาคม2513 จำเลยจัดตั้งวงเล่นแชร์ขึ้น 7 วง โดยจำเลยเป็นนายวงทุกวง โจทก์ร่วมเป็นลูกวงด้วยทั้ง 7 วง มีสิทธิประมูลแชร์ได้ทุกวง แต่เนื่องจากการเล่นแชร์ต้องล้มเลิกไปกลางคันเสียก่อน โจทก์ไม่อาจเข้าประมูลหรือเปียแชร์ได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยในฐานะนายวงแชร์จะต้องรับผิดในความเสียหายตามวิธีการและประเพณีของการตกลงตั้งวงเล่นแชร์ กล่าวคือในวันแรกที่เริ่มตั้งวงเล่นแชร์แต่ละวง จำเลยในฐานะนายวงแชร์ได้เรียกเก็บเงินจากลูกวงทุกคนตามจำนวนมือ (หุ้น) ที่ลูกวงแต่ละคนได้ตกลงเล่นไว้เป็นจำนวนมือ (หุ้น) ละ 200 บาททุกวง โดยไม่ต้องจัดให้ประมูล (เปีย) แชร์ และไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับลูกวง จำเลยได้รับเงินจากลูกวงทุกคนไปครบถ้วนแล้วทั้ง 7 วง จากนั้นจำเลยมีหน้าที่ต้องจัดให้มีการประมูล (เปีย) แชร์ก่อนวันที่ทางราชการได้จ่ายเงินเดือนในเดือนถัดไป นับแต่เดือนที่ได้จัดตั้งวงเล่นแชร์ทุก ๆ เดือน เดือนละครั้นจนกว่าจะสิ้นสุดกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อลูกวงคนใดประมูล (เปีย) แชร์ได้ จำเลยมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บเงินจากลูกวงรายอื่น ๆ รวมทั้งของจำเลยเองด้วย โดยเรียกเก็บมือ (หุ้น) ละ200 บาท กับดอกเบี้ยสำหรับลูกวงที่ประมูล (เปีย) แชร์ได้ไปแล้วได้ให้ดอกเบี้ยไว้ เพื่อนำเงินทั้งหมดส่งให้กับลูกวงคนที่ประมูล (เปีย) แชร์ได้ในครั้งนั้นภายในกำหนด 5 วัน นับแต่วันที่ทางราชการได้จ่ายเงินเดือนในเดือนนั้น ๆ หากจำเลยเรียกเก็บเงินได้ไม่ครบจำนวนหรือละเลยไม่เรียกเก็บเงิน จำเลยต้องรับผิดในจำนวนเงินที่ขาด ถ้าการประมูล (เปีย) แชร์ไม่อาจจัดขึ้นได้ไม่ว่าเพราะเหตุใด จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายอันจะพึงเกิดขึ้นแก่ลูกวงที่ยังมีสิทธิเข้าประมูล (เปีย) แชร์ เมื่อไม่อาจใช้สิทธินั้นได้ ความเสียหายดังกล่าวหมายถึงการคืนจำนวนต้นเงินที่ลูกวงได้นำส่งให้กับจำเลยทุก ๆ เดือนที่ผ่านมานับแต่เดือนที่จำเลยได้เริ่มจัดตั้งวงเล่นแชร์ กับดอกเบี้ยที่ลูกวงรายอื่น ๆ ที่ประมูล (เปีย) แชร์ได้ไปแล้วได้ให้ดอกเบี้ยไว้โจทก์ได้รับความเสียหาย คือ แชร์วงที่ 1 ถึงวงที่ 7 จำเลยหาได้จัดให้มีการประมูล (เปีย) แชร์ไม่ รวมดอกเบี้ยที่ลูกวงประมูล (เปีย) แชร์ได้ไปแล้ว ได้ให้ดอกเบี้ยไว้กับต้นเงินที่โจทก์ได้จ่ายให้จำเลยตามที่จำเลยเรียกเก็บเป็นรายเดือนในวงแชร์แต่ละวงเป็นเงิน 38,981 บาท แต่ได้รับชดใช้คืนมาบ้างแล้วเป็นเงิน 4,900 บาท และคาดว่าจะได้รับชดใช้คืนอีกเดือนละ 500 บาท นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2515 ถึงเดือนเมษายน 2515 เป็นเงิน1,500 บาท รวมความเสียหายที่โจทก์ได้รับจริง เป็นเงิน 32,581 บาท โจทก์ติดต่อให้จำเลยชำระแล้ว จำเลยเพิกเฉย โจทก์ได้รับอนุญาตจากสามีให้ฟ้องจำเลยแล้ว ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย 32,581 บาท กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง

จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยต่างเข้าหุ้นเสี่ยงภัยให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยหวังประโยชน์คือดอกเบี้ยเกินอัตราซึ่งผิดกฎหมายเป็นการตอบแทน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์จำเลยรวมทั้งผู้เล่นอีกหลายสิบคนเป็นข้าราชการด้วยกัน โจทก์รู้จักฐานะของทุกคนได้ดีจึงได้เข้าร่วมลงหุ้นให้กู้โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้กู้ จำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนคนหนึ่ง มิได้เป็นหัวหน้าวงแชร์ เพราะมิได้ยึดถือหลักประกันของผู้ใดไว้ซึ่งจะทำให้จำเลยต้องมีหน้าที่รับผิดชอบแทนหรือร่วมกับผู้อื่นในหนี้สินของหุ้นส่วนคนอื่น ๆ โจทก์ส่งเงินให้หุ้นส่วนคนอื่น ๆ ไปตามงวด ไม่ได้ส่งให้จำเลย บรรดาหุ้นส่วนจะตกลงกันเองในเรื่องการให้ดอกเบี้ยแก่ใครและส่งเงินให้กับหุ้นส่วนคนใดเป็นคราว ๆ ไปใครเอาเงินของโจทก์ไปโจทก์ก็ต้องไปเรียกเอากับคนอื่น เพราะวงแชร์ล้มลงด้วยความคดโกงของคนอื่น ไม่ใช่เพราะจำเลย จำเลยไม่เคยตกลงที่จะต้องรับผิดเพื่อคนอื่น วิธีการและประเพณีของการเล่นแชร์เป็นประเพณีจีน ไม่อาจนำมาใช้บังคับได้ ทั้งประเพณีดังกล่าวนายวงจะต้องมีหลักฐานและหลักประกันของหุ้นส่วนคนที่ได้รับเงินไปแล้วมายึดถือไว้ ฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องการกู้ยืมซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่ชอบที่ศาลจะรับไว้พิจารณาคณะรัฐมนตรีมีมติห้ามข้าราชการเล่นแชร์ มตินี้มีผลบังคับโจทก์และจำเลยซึ่งเป็นข้าราชการ และมีผลบังคับถึงกระทรวงยุติธรรมด้วย การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจึงเป็นการขอให้บังคับชำระหนี้อันฝ่าฝืนข้อห้ามอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน โจทก์เล่นแชร์ 9 วง ไม่ใช่ 7 วง บางวงโจทก์ชนะการประมูลดอกเบี้ย ได้เงินไปแล้วมากมาย แต่โจทก์ไม่ยอมส่งเงินให้หุ้นส่วนคนอื่น ๆ ต่อไป จนเป็นเหตุให้แชร์อื่น ๆ ต้องพลอยล้มเลิกไปเพราะความผิดของโจทก์เองความเสียหายของโจทก์ไม่เกิน 1,200 บาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 20,100 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้เงินค่าหุ้นรวม 7 วงเป็นเงิน16,900 บาทแก่โจทก์ กับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า มีการตั้งวงแชร์ 7 วงตามฟ้องโดยจำเลยเป็นนายวง การเล่นแชร์ทั้ง 7 วงมีจำนวนลูกวงแตกต่างกันแล้วแต่ว่ามีผู้เข้าเล่นแชร์วงไหนเท่าใด และแต่ละวงลูกวงจะมีจำนวนมือ (หุ้น)เท่าใดก็ได้ โดยคิดราคามือ (หุ้น) ละ 200 บาท จำเลยผู้เป็นนายวงแต่ละวงเรียกเก็บเงินจากลูกวงในเดือนแรกทุกคนตามจำนวนมือ (หุ้น)ที่ลูกวงถืออยู่โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เดือนต่อไปจึงจัดให้มีการประมูล(เปีย) ลูกวงคนใดให้ดอกเบี้ยสูงกว่าผู้อื่น ก็ถือว่าผู้นั้นประมูลได้ จำเลยซึ่งเป็นนายวงมีหน้าที่เรียกเก็บเงินจากลูกวง มือ (หุ้น) ละ 200 บาทแล้วรวบรวมส่งให้ผู้ประมูล (เปีย) ได้ ผู้ประมูล (เปีย) ได้ต้องให้ต้นเงิน200 บาทรวมทั้งดอกเบี้ยสำหรับผู้ประมูลได้ในเดือนถัดไปเช่นนี้เรื่อยไปจนกว่าจะครบลูกวงทุกคน การตั้งวงเล่นแชร์ทั้ง 7 วงตั้งขึ้นไม่พร้อมกันโจทก์เข้าเป็นลูกวงด้วยทุกวง ครั้นถึงเดือนกรกฎาคม 2514 วงเล่นแชร์ทั้ง 7 วงล้ม โดยโจทก์ยังมิได้ประมูล (เปีย) ในวงเล่นแชร์วงใดเลย โจทก์จึงเป็นผู้ลงเงินไว้แล้วแต่ไม่ได้คืนตามที่ควรจะได้

วินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยเป็นนายวงมีสิทธิได้รับประโยชน์คือเงินของลูกวงตามจำนวนมือ (หุ้น) ที่มีอยู่แต่ละวงเป็นลำดับแรกโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยและเมื่อมีการประมูล จำเลยเป็นผู้นัดหมายตลอดจนรวบรวมเงินจากลูกวงแต่ละคนส่งให้ผู้ประมูล(เปีย) ได้ ที่ไม่ได้ทำหลักฐานการรับเงินกันไว้ก็เพราะความไว้ใจกันพฤติการณ์ย่อมเป็นที่เข้าใจกันระหว่างผู้เล่นว่านายวงตกลงยอมเป็นผู้รับผิดชอบใช้เงินแก่ลูกวงที่ยังไม่ได้ประมูล (เปีย) ในเมื่อวงแชร์ล้มแม้แต่นางพูนศรี วัฒนางกูล พยานจำเลยก็เบิกความเจือสมโจทก์ว่าหากแชร์ที่มีนายวงล้ม นายวงต้องรับผิด ดังนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์จึงชอบแล้ว การเล่นวงแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่งเกิดขึ้นจากความตกลงระหว่างผู้เล่น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าจะต้องทำสัญญาหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ คงบังคับกันได้ตามหลักสัญญาทั่วไป

จำเลยฎีกาอ้างว่า คณะรัฐมนตรีมีมติห้ามข้าราชการและพนักงานขององค์การรัฐเล่นแชร์ เห็นว่า แม้ว่าจะมีมติของคณะรัฐมนตรีเช่นนั้นจริงก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับบัญชาทางวินัยเท่านั้น การเล่นวงแชร์หาได้มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามโดยกฎหมายหรือขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนอันจะทำให้สัญญาตกเป็นโมฆะไม่

จำเลยฎีกาว่า โจทก์เล่นแชร์วงอื่นอีก 2 วงซึ่งโจทก์เปียแชร์ได้มีกำไรจึงต้องเอากำไรมาหักออกจากจำนวนเงิน 16,900 บาทที่โจทก์เสียหายเห็นว่า แชร์แต่ละวงมีผู้เข้าเล่นแตกต่างกันไปทั้งจำนวนและผู้เข้าเล่นตลอดจนระยะเวลา โจทก์จะมีกำไรขาดทุนอย่างไรในแชร์วงอื่น ก็เป็นเรื่องของแชร์วงนั้น ๆ จะนำมาคิดหักทอนกับแชร์วงพิพาท 7 วงนี้ย่อมไม่ได้เพราะเป็นสัญญาต่างรายกัน

พิพากษายืน

Share