แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขับเรือยนต์โดยประมาทชนเรือที่โจทก์โดยสารมาล่มลง
โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซีกต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกันแขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำเพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไปโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไร นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้องจึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับเรือยนต์โดยประมาทชนเรือที่โจทก์โดยสารมาล่มลงเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 1 ได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนเสียใช้การไม่ได้ไปตลอดชีวิต โจทก์ที่ 2 บาดเจ็บไม่ถึงสาหัส ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า เรือยนต์จำเลยกับเรือยนต์ของนายพื้นที่โจทก์โดยสารมาชนกันเพราะความประมาทของนายฟื้น โจทก์ควรไปฟ้องเรียกเอาจากนายฟื้น การรักษาพยาบาลก็ไม่มาก แขนโจทก์ยังใช้ได้ทรัพย์สินโจทก์ไม่หาย ความเสียหายของโจทก์มีเพียงเล็กน้อยจำเลยไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า โจทก์ทั้งสองได้รับบาดเจ็บจริงดังฟ้อง แต่โจทก์มีหลักฐานค่ารักษาพยาบาลมาไม่ครบ และทรัพย์สินสูญหายไปเพียงบางอย่าง จึงให้จำเลยใช้ค่าเสียหายตามที่ศาลกำหนดให้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ที่ 1 ถูกเรือยนต์จำเลยชนจนกระดูกซี่โครงซี่ต้นหักและกระดูกยังไม่งอกติดกัน แขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำ เพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอก และทำงานหนักไม่ได้ แพทย์ผู้รักษาก็ว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไปโจทก์ที่ 1 ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเอาจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444และ 446 ได้ ในเรื่องค่ารักษาพยาบาลโจทก์นำสืบฟังได้ จำเลยไม่มีหลักฐานอะไรมาแสดงเพื่อหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ เชื่อว่าโจทก์ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปจริงแต่ที่ศาลชั้นต้นกำหนดค่ารักษาให้โจทก์ โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา นับว่าเป็นผลดีแก่จำเลยแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าทรัพย์สินของโจทก์ได้สูญหายไปจริงตามที่ศาลล่างวินิจฉัย ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมนั้น การจะพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์เท่าใด เพียงไรนั้นเป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้ โจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้อง ศาลล่างจึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องนั้นเป็นการสมควรแล้ว
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย