แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ร้องขอให้จดทะเบียนสมรส เท่ากับอ้างว่าขณะนี้ต่างไม่มีคู่สมรสนายอำเภอคัดค้านปฏิเสธว่าผู้ร้องต่างมีคู่สมรสอยู่ผิดเงื่อนไขการสมรสในรายงานกระบวนพิจารณาผู้คัดค้านแถลงว่าผู้คัดค้านไม่ทราบว่าผู้ร้องมีคู่สมรสอยู่หรือไม่ ต่างไม่สืบพยาน ดังนี้ ผู้คัดค้านมิได้รับข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องต่างไม่มีคู่สมรส และมิได้ตกลงสละประเด็นข้อนี้ ผู้ร้องยังมีหน้าที่นำสืบอยู่เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยานผู้ร้องต้องแพ้คดี
ย่อยาว
ผู้ร้องฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ลงวันที่ 29 เดือนพฤศจิกายนพุทธศักราช 2521
ผู้ร้องร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย เชื้อชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 1035 ถนนแก้ววรวุฒิ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2521 ผู้ร้องกับนางสาวแสงฟ้า สุนดาราซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติลาว เชื้อชาติลาว เกิดในประเทศลาวปัจจุบันมีภูมิลำเนาอยู่ที่ศูนย์อพยพลาว ตำบลหาดคำ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสต่อนายทะเบียนอำเภอเมืองหนองคาย แต่นายทะเบียนอำเภอเมืองหนองคายไม่ยอมจดทะเบียนสมรสให้ อ้างว่าขัดต่อคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ให้ยับยั้งการจดทะเบียนสมรสระหว่างชายไทยกับหญิงต่างด้าวที่เข้าเมืองมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ยอมจดทะเบียนสมรสให้ทั้ง ๆที่ผู้ร้องและนางสาวแสงฟ้า สุนดารา เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขแห่งการสมรส และไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1449,1450, 1451, 1452 เป็นเหตุให้ผู้ร้องและนางสาวแสงฟ้า สุนดารา ได้รับความเสียหาย ขอให้มีคำสั่งให้นายทะเบียนอำเภอเมืองหนองคายจดทะเบียนสมรสให้ผู้ร้องกับนางสาวแสงฟ้า สุนดารา ตามพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 มาตรา 15
นายพิชัย ยุวนิช นายอำเภอเมืองหนองคายคัดค้านว่า ผู้ร้องจะเป็นผู้มีสัญชาติไทย เชื้อชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ตามที่ปรากฏในคำร้องหรือไม่ผู้คัดค้านไม่รับรอง นายอำเภอเมืองหนองคายไม่สามารถจดทะเบียนสมรสตามคำร้องของผู้ร้องได้ เพราะผู้ร้องกับนางแสงฟ้า สุนดารา ต่างก็ยังมีคู่สมรสอยู่ ผิดเงื่อนไขการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1452และนางแสงฟ้า สุนดารา เป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติลาว ถูกควบคุมอยู่ในศูนย์รับผู้อพยพจังหวัดหนองคาย เพื่อรอการส่งกลับ ไม่นับว่าเป็นคนเข้าเมืองตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 18(1) เมื่อไม่นับเป็นคนเข้าเมือง นายทะเบียนอำเภอเมืองหนองคายจึงไม่อาจจดทะเบียนสมรสให้ได้ เพราะมีหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทยที่ 443/2493 ลงวันที่ 30ธันวาคม 2493 ที่ 649/2496 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2496 ที่ 83/2497ลงวันที่ 11 มกราคม 2497 ที่ 11769/2501 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2501 และหนังสือที่ 20695/2501 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2501 สั่งการมิให้จดทะเบียนสมรสให้คนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว โดยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ที่ผู้คัดค้านไม่จดทะเบียนสมรสให้จึงเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาแล้ว ทางพิจารณาข้อเท็จจริงได้ความตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 29 สิงหาคม 2521 ว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านแถลงรับกันว่า ผู้ร้องเป็นคนสัญชาติไทย สำหรับประเด็นที่ว่าผู้ร้องกับนางแสงฟ้าสุนดารา ต่างมีคู่สมรสหรือไม่นั้น ผู้คัดค้านยอมรับว่าไม่ทราบว่าบุคคลทั้งสองจะเคยมีคู่สมรสมาก่อนหรือไม่ ทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจสืบพยาน ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามรูปคดี
คดีนี้ผู้ร้องร้องขอให้ผู้คัดค้านจดทะเบียนสมรสให้ดังนี้เท่ากับกล่าวอ้างว่าขณะนี้ตนและนางแสงฟ้า สุนดารา ต่างไม่มีคู่สมรสอยู่ ซึ่งผู้ร้องกับนางแสงฟ้าสุนดารา เป็นบุคคลที่อยู่ในเงื่อนไขที่จะทำการสมรสกันได้ตามบทบัญญัติ บรรพ 5แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519 มาตรา 1452 การที่ผู้คัดค้านแถลงรับว่า ไม่ทราบว่าทั้งสองคนจะเคยมีคู่สมรสมาก่อนหรือไม่ และทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจสืบพยานในข้อนี้ต่อไปนั้น เห็นว่าผู้คัดค้านมิได้รับในข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ร้องและนางแสงฟ้า สุนดารา ต่างยังไม่มีคู่สมรส และมิได้ตกลงกันสละประเด็นข้อนี้ดังที่ผู้ร้องฎีกา ดังนั้นผู้ร้องจึงยังคงมีหน้าที่นำสืบในข้อเท็จจริงดังกล่าว เมื่อผู้ร้องแถลงไม่สืบพยาน ผู้ร้องจึงตกเป็นฝ่ายแพ้คดี ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ผู้คัดค้านไม่แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นนี้ให้