คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7921/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มูลหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินฉบับพิพาทสืบเนื่องมาจากการที่จำเลยเป็นหนี้การพนันสลากกินรวบแก่โจทก์ซึ่งมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 150

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2540 จำเลยได้กู้ยืมเงินจากโจทก์ไป 80,000 บาท โดยยินยอมให้คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยจะชำระเงินคืนในวันที่ 1 ธันวาคม 2540 ครั้นถึงกำหนดจำเลยไม่ชำระขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 82,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 80,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยกู้ยืมเงินและรับเงินจำนวน 80,000 บาท จากโจทก์ สัญญากู้เอกสารท้ายฟ้องมีมูลหนี้มาจากการพนันสลากกินรวบโดยโจทก์ได้ให้จำเลยลงลายมือชื่อในสัญญากู้ยืมเงินไว้เป็นหลักฐานเพื่อกันลืมขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาโดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ที่จำเลยอ้างว่าจำเลยไม่ได้รับเงินจากโจทก์ 80,000 บาท ตามสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมายจ.1 มีน้ำหนักในการรับฟังจำเลยนำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้ค่าสลากกินรวบโจทก์เป็นเงิน 9,500 บาท แต่โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นเงินจำนวน 80,000 บาท มูลหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1 สืบเนื่องมาจากการที่จำเลยเป็นหนี้การพนันสลากกินรวบแก่โจทก์ซึ่งมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1

พิพากษายืน

Share