คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4778/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อคำร้องขอถอนฟ้องฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2536 ศาลฎีกาได้วินิจฉัยตามคำพิพากษาฎีกาที่ 6319/2541 ว่า ส. ซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวเป็นผู้ทำปลอมขึ้นเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นหลงเชื่อสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ การสั่งคำร้องขอศาลชั้นต้นจึงเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ เป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นตัวความได้รับความเสียหายซึ่งโจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดและให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 การยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2542 ของโจทก์พอแปลเจตนารมณ์ของโจทก์ได้ว่า ประสงค์ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบและยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาต่อไปการยื่นคำร้องขอดังกล่าวมิใช่การยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36 มาปรับใช้บังคับได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากนางพิมพ์หรือพิมพา คำลือชัย ผู้ร้อง ซึ่งเป็นโจทก์คดีนี้ได้ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2542 ขอให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่อ้างว่า คำร้องขอถอนฟ้องฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2536 เป็นเอกสารปลอม ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยว่านายสุพร สุวรรณมงคล ทนายโจทก์คนก่อนเป็นผู้ทำปลอมขึ้นโดยโจทก์มิได้รู้เห็นและยินยอมให้ถอนฟ้องโจทก์ยังประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองต่อไป ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งว่ากรณีไม่มีเหตุที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ชอบหรือไม่ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาฎีกาที่ 6319/2541 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร โจทก์ นายสุพร สุวรรณมงคล จำเลย ว่า คำร้องขอถอนฟ้องโจทก์ฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2536 นายสุพรซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวเป็นผู้ทำปลอมขึ้น เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นหลงเชื่อสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ การสั่งคำร้องของศาลชั้นต้นดังกล่าว จึงเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ เป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นตัวความได้รับความเสียหายซึ่งโจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดและให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 การยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2542 ของโจทก์พอแปลเจตนารมณ์ของโจทก์ได้ว่าประสงค์ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบและยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาต่อไป การยื่นคำร้องขอดังกล่าวมิใช่การยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ จึงไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36 มาปรับใช้บังคับ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป จึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share