คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นฝ่ายตั้งจำนวนเบี้ยปรับเรียกร้องมาเอง โดยตั้งใจจะปรับจำเลยเพียงเท่านั้น จำเลยก็ยอมชำระไปตามนั้น เรื่องเบี้ยปรับเป็นอันระงับสิ้นไป ถือว่าคู่กรณีไม่มีเจตนาจะเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากกันอีก
ถ้าโจทก์ถือว่าจำนวนเบี้ยปรับที่เรียกปรับแล้วเป็นแต่เพียงบางส่วนจะต้องมีการเรียกเพิ่มขึ้นอีกภายหน้า โจทก์จะต้องแสดงสงวนสิทธิเช่นนี้ไว้ มิฉะนั้นจะรื้อฟื้นเรียกร้องเบี้ยปรับซึ่งระงับเสร็จสิ้นกันไปแล้วเพิ่มเติมอีกไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2508 จำเลยทำสัญญาขายเหล็กโครงสร้างสำหรับลานสวิชโรงไฟฟ้าและสถานีจ่ายไฟสกลนครนาแก และธาตุพนม ของโครงการแม่น้ำพุงกับโจทก์ราคาทั้งสิ้น450,000 บาท ตกลงจะแบ่งจ่ายเงินเป็น 3 งวด ณ สถานที่และกำหนดเวลาตามสัญญา ถ้าจำเลยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง จำเลยยอมให้โจทก์ปรับเป็นจำนวนเงินร้อยละ 5 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้ส่งโดยคิดเป็นรายเดือนจนกว่าจะได้นำสิ่งของนั้น ๆ ส่งแก่โจทก์ครบถ้วนและถูกต้อง

ตามสัญญางวดที่ 1 จำเลยนำเหล็กโครงสร้างส่งมอบเกินกำหนด 3 เดือน 2 วัน จำเลยต้องใช้ค่าปรับให้โจทก์ 15,333.33 บาท โจทก์หักเงินค่าปรับบางส่วนไว้จากจำเลยแล้ว 3,000 บาท จำเลยต้องรับผิดใช้ให้โจทก์อีก 12,333.33 บาท

สัญญางวดที่ 2 จำเลยส่งมอบเกินกำหนดเวลา 1 เดือน 18 วันจำเลยต้องใช้ค่าปรับให้โจทก์ 12,000 บาท โจทก์หักเงินค่าปรับบางส่วนไว้แล้ว 4,500 บาท จำเลยจะต้องรับผิดในส่วนที่ยังไม่ได้ชำระในงวดที่ 2 อีก 7,500 บาท ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงินค่าปรับ 19,833.33 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าส่งของให้โจทก์ครบถ้วนตามกำหนดในสัญญาแล้วแต่เจ้าหน้าที่ของโจทก์มาเซ็นรับเอาเมื่อบริษัทญี่ปุ่นประกอบเสร็จแล้ว ที่จำเลยยอมให้โจทก์ปรับก็เพื่อให้งานของจำเลยเรียบร้อย จำเลยชำระค่าปรับครบถ้วนแล้ว ค่าปรับที่โจทก์อ้างมาโจทก์ไม่สามารถที่จะเรียกจากจำเลยได้

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ได้รับสิ่งของครบถ้วน แต่ไม่ตรงตามกำหนดเวลาในสัญญา และโจทก์เรียกร้องให้ชำระเบี้ยปรับจำเลยได้ชำระแล้วโจทก์มิได้สงวนสิทธิที่จะเรียกร้องเบี้ยปรับไว้อีก จึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การที่โจทก์เรียกเอาเบี้ยปรับจากจำเลยโดยหักเอาจากราคาของที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลยในเวลาชำระราคาของกันนั้นถือได้ว่าโจทก์ได้บอกสงวนสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับแล้ว เพียงแต่คิดเบี้ยปรับที่หักไว้ผิดไปเท่านั้น จึงพิพากษากลับให้จำเลยใช้เบี้ยปรับ 19,833.33 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ชำระค่าปรับให้โจทก์ไปแล้ว โดยยอมให้โจทก์หักจากเงินราคาสิ่งของที่โจทก์จะต้องชำระแก่จำเลยเอาไปและสิ่งของทั้งสามงวดโจทก์ก็ได้รับมอบจากจำเลยไว้โดยถูกต้องตามสัญญาเรียบร้อยแล้วโจทก์ได้คืนหลักฐานการค้ำประกันของธนาคารที่จำเลยนำมาวางต่อโจทก์ให้จำเลยรับไปแล้ว นับได้ว่าได้มีการปฏิบัติตามสัญญาต่อกันโดยครบถ้วน แม้ต่อมาจะปรากฏว่าเบี้ยปรับที่โจทก์เรียกปรับจากจำเลยต่ำไป โจทก์เป็นฝ่ายตั้งจำนวนเบี้ยปรับเรียกร้องมาเอง โดยตั้งใจจะปรับจำเลยเพียงเท่านั้น จำเลยก็ยินยอมชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์ไปตามนั้นในเรื่องเบี้ยปรับจึงเป็นอันระงับสิ้นไป คู่กรณีไม่มีเจตนาจะเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากกันอีก ถ้าโจทก์ถือว่าจำนวนเบี้ยปรับที่เรียกปรับมาแล้วเป็นแต่เพียงบางส่วน จะต้องมีการเรียกเพิ่มขึ้นอีกภายหน้าโจทก์ก็ต้องแสดงสงวนสิทธิเช่นนี้ไว้ แต่โจทก์มิได้กระทำเช่นนั้น จึงจะมารื้อฟื้นเรียกร้องเบี้ยปรับซึ่งระงับเสร็จสิ้นกันไปแล้วจากจำเลยเพิ่มเติมอีกหาได้ไม่

พิพากษากลับ

Share