คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5957/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกพากันไปที่บ้านผู้ตายเพื่อต่อว่าน้องของผู้ตายไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าใคร น้องของผู้ตายออกจากบ้านมาชกต่อยกับล.พวกของจำเลย จำเลยกับคนอื่นเพียงแต่ยืนดูเฉย ๆ เมื่อผู้ตายออกจากบ้านเดินเข้าไปที่คู่ต่อสู้ จำเลยก็เพียงแต่ชักอาวุธปืนออกมาขู่ไม่ให้ผู้ตายเข้าไปช่วยน้องเท่านั้น หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็คงยิงผู้ตายตั้งแต่ผู้ตายออกจากบ้านแล้วการที่ ล. ยิงผู้ตาย เป็นการกระทำของล.แต่ผู้เดียว ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายวิชัย สวัสดี โดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้นายวิชัยถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 จำคุก 15 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นางม่วยมารดานายเล็กและนายทักเข้าไปในบ้านผู้ตาย พูดกับนายดำต่อว่าที่นายดำท้ายิงนายเล็กนายดำว่าพูดเล่น พูดกันสักครู่หนึ่งนายเที่ยงซึ่งอยู่นอกบ้านผู้ตายก็มาเรียกนายดำออกไปนอกบ้าน มีจำเลยกับนายเล็กยืนคอยอยู่ นายดำกับนายเล็กชกต่อยกันสักครู่ผู้ตายก็ตามออกไป จำเลยชักอาวุธปืนสั้นออกมาพูดว่าอย่ายุ่งนะ ต่อจากนั้นนายเล็กก็ชักอาวุธปืนออกมายิงตายแล้วจำเลยกับพวกก็พากันหลบหนีไป ศาลฎีกาเห็นว่าพยานโจทก์คงฟังได้ว่า จำเลยกับพวกพากันไปที่บ้านผู้ตายก็เพื่อต่อว่านายดำน้องผู้ตายเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าใคร เพราะหากมีเจตนาฆ่านายดำเมื่อไปถึงบ้านผู้ตาย จำเลยกับพวกก็คงใช้อาวุธปืนยิงนายดำตั้งแต่พบตัวแล้ว คงมีแต่นายเล็กเท่านั้นที่ชกต่อยกับนายดำ จำเลยกับคนอื่นเพียงแต่ยืนดูเฉย ๆ โดยเฉพาะผู้ตายก็ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ใด เมื่อผู้ตายเดินเข้าไปที่คู่ต่อสู้ จำเลยก็เพียงแต่ชักอาวุธปืนออกมาขู่ไม่ให้ผู้ตายเข้าไปช่วยนายดำเท่านั้น หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็คงยิงผู้ตายตั้งแต่ผู้ตายออกมาจากบ้านแล้ว การที่นายเล็กยิงผู้ตายเป็นการกระทำของนายเล็กแต่เพียงผู้เดียว จำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย และหากจำเลยมีเจตนาร่วมฆ่าผู้ตาย จำเลยก็คงใช้อาวุธปืนที่ถืออยู่ในมือยิงผู้ตายด้วย ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตายดังฟ้อง

พิพากษายืน

Share