คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

หนี้ตามคำพิพากษาซึ่งจำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์เมื่อรวมกับค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์และค่าธรรมเนียมในการยึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 400,000 บาทแต่โจทก์ได้รับชำระหนี้จาก ฝ. ซึ่งชำระหนี้แทนจำเลยเพียง281,070 บาท แสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้โดยครบถ้วน ฉะนั้นการที่ศาลล่างสั่งให้งดการบังคับคดีย่อมไม่ชอบ ชอบที่จะบังคับคดีแก่จำเลยต่อไป.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์พิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยชำระเงินต้นจำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์ แต่จำเลยยังไม่ชำระ โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินจำเลยโฉนดเลขที่ 30068 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องเป็นใจความว่า นายฝังพาสน์ บุญเลี้ยง ได้ชำระหนี้แทนจำเลยให้แก่โจทก์หมดสิ้นแล้วเป็นเงิน 281,070 บาทโดยโจทก์จะถอนการยึดทรัพย์ให้ แต่ยังไม่ดำเนินการถอนตามที่ตกลงกันขอให้ระงับการขายทอดตลาด และให้ถอนการยึดทรัพย์โดยให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมในการถอนการยึดด้วย
โจทก์แถลงคัดค้านว่า โจทก์ได้รับเงินจำนวน 281,070 บาท ตามคำร้องของจำเลยจริง แต่รับไว้เพื่อตอบแทนการที่โจทก์ถอนฟ้องคดีอาญาที่ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดไว้ และนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้วมีคำสั่งให้ถอนการยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 30068ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในกรณียึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายตามตาราง 5 ข้อ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้เห็นควรให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้โดยครบถ้วน ศาลอุทธรณ์คำนวณหนี้ตามคำพิพากษาเฉพาะเงินต้นและดอกเบี้ยเท่านั้น ยังมิได้คำนวณหนี้เกี่ยวกับค่าฤชาธรรมเนียม และค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีนั้น เห็นว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้ในคดีนี้จากนายฝังพาสน์ ซึ่งชำระหนี้แทนจำเลยเพียง 281,070 บาท ตามเอกสารหมาย ล.1 หนี้ตามคำพิพากษาซึ่งจำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์เมื่อรวมกับค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์และค่าธรรมเนียมในการยึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายจะมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 400,000 บาท หนี้มีจำนวนทั้งหมดดังกล่าวแสดงว่าโจทก์ยังไม่ได้รับชำระหนี้โดยครบถ้วน ที่ศาลล่างทั้งสองให้งดการบังคับคดีนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีแก่จำเลยต่อไปโดยให้หักเงินที่โจทก์ได้รับชำระจากนายฝังพาสน์จำนวน 281,070 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2529 ออกจากหนี้ทั้งหมดที่จำเลยจะต้องชำระตามคำพิพากษาคดีนี้รวมทั้งค่าธรรมเนียมการยึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหากมี.

Share