คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4579/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดโดยอ้างเหตุว่าพิมพ์ผิดพลาด เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องและเหตุที่โจทก์อ้างมานั้นเป็นเหตุอันสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง เพราะอาจเกิดบกพร่องเช่นนั้นได้ ทั้งจำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ และชั้นไต่สวนมูลฟ้อง พยานโจทก์ก็เบิกความว่าจำเลยกระทำความผิดตามวันที่ที่โจทก์ขอแก้ จึงไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ชอบที่จะให้โจทก์แก้ฟ้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องจำเลยให้การปฏิเสธ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย รอฟังคำพิพากษา แต่ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องโดยขอแก้คำว่า “วันที่ 21 กรกฎาคม 2531” เป็นคำว่า “วันที่ 21กรกฎาคม 2530” โดยอ้างเหตุว่าพิมพ์ผิดพลาด จำเลยแถลงคัดค้านว่าเป็นการแก้วันกระทำความผิดซึ่งจำเลยหลงต่อสู้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าการขอแก้ฟ้องนั้นฟ้องเดิมจะต้องสมบูรณ์ เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์มาแต่ต้นแล้ว โจทก์จะมาขอแก้ฟ้องเพื่อให้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์หาได้ไม่จึงไม่อนุญาตให้ยกคำร้องและพิพากษาว่าโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่27 เมษายน 2531 กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดในวันที่ 21 กรกฎาคม2531 ซึ่งเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้อง การจะฟ้องขอให้ลงโทษผู้ใดตามกฎหมายนั้นต้องเป็นเรื่องที่ผู้นั้นได้กระทำผิดมาแล้วก่อนวันที่โจทก์ฟ้อง จะฟ้องล่วงหน้าว่าจำเลยกระทำผิดหาได้ไม่จำเลยไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ขอให้อนุญาตให้โจทก์ทั้งสองแก้ฟ้องได้ตามคำร้องและขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาและคำสั่งของศาลชั้นต้น อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยไปให้สิ้นกระแสความ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 163 บัญญัติว่า “เมื่อมีเหตุอันควรโจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น…”พิเคราะห์แล้วโจทก์อ้างเหตุว่าฟ้องของโจทก์ทั้งสองบกพร่องเนื่องจากพิมพ์ผิดพลาดขอแก้คำว่า “วันที่ 21 กรกฎาคม 2531″ เป็นคำว่า”วันที่ 21 กรกฎาคม 2530″ เห็นว่าเหตุที่โจทก์อ้างมานั้นถือได้ว่าเป็นเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ เพราะอาจเกิดบกพร่องเช่นนั้นได้ และการที่โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดนั้น เป็นการแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 164 มิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ ทั้งจำเลยให้การปฏิเสธลอย ๆ และชั้นไต่สวนมูลฟ้อง พยานโจทก์ก็เบิกความว่าวันที่จำเลยกระทำความผิดคือวันที่ 21 กรกฎาคม 2530 จึงไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้”
พิพากษายืน

Share