คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3912/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

กฎกระทรวงฉบับที่ 25(พ.ศ. 2527) ซึ่งออกตามความในมาตรา 5และมาตรา 7 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่กำหนดว่ารถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่จะขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะต้องเป็นรถที่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือได้แจ้งย้ายเข้ามาในกรุงเทพมหานครก่อนหรือในวันที่ 19 สิงหาคม 2525 นั้นเป็นเรื่องกำหนดกฎเกณฑ์หรือระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างเป็นรถยนต์สาธารณะ ที่มิได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อรถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่มีลักษณะ ขนาด และกำลังของเครื่องยนต์และของรถเข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นรถยนต์สาธารณะตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 5(พ.ศ. 2524) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 24(พ.ศ. 2527)และได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่23 มิถุนายน 2514 โดยไม่ปรากฏว่าการจดทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่อย่างใด ทั้งได้มีการเสียภาษีประจำปีและได้รับการต่อทะเบียนประเภทรถยนต์รับจ้างสาธารณะตลอดมา โจทก์เจ้าของรถย่อมมีสิทธิจะจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีรถยนต์ของโจทก์ในประเภทรถยนต์โดยสารสาธารณะต่อไปได้ จำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนจะปฏิเสธหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่มีลักษณะขนาด และกำลังเครื่องยนต์ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้จดทะเบียนเสียภาษีประจำปีได้ และรถของโจทก์ได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์โดยสารสาธารณะมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 และได้รับการจดต่อทะเบียนตลอดมา ครั้นปี พ.ศ. 2528 จำเลยในฐานะนายทะเบียนยานพาหนะไม่ยอมจดต่อทะเบียนให้ ขอบังคับให้จำเลยรับหรือสั่งให้เจ้าหน้าที่ของจำเลยรับจดต่อทะเบียนเสียภาษีรถของโจทก์กับงดค่าปรับด้วย จำเลยให้การว่า จำเลยไม่อาจรับจดต่อทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวให้แก่โจทก์ได้ เนื่องจากจำเลยกำลังรอคำวินิจฉัยจากกองวิชาการกรมตำรวจในการตีความกฎกระทรวง ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2527)และกฎกระทรวงฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2527) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ตามเอกสารท้ายคำให้การ ขอให้ยกฟ้อง วันชี้สองสถานโจทก์แถลงไม่ติดใจในประเด็นที่ขอให้งดค่าปรับ และจำเลยรับข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถตามคำฟ้อง และได้มีหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 ถึงจำเลยเพื่อขอให้ต่อทะเบียน และโจทก์จำเลยได้ตรวจดูรถยนต์คันดังกล่าวต่อหน้าศาล ปรากฏว่าเป็นรถสองตอนกว้าง 1.30 เมตร ยาว 3 เมตร มีประตูหน้า 2 ประตูประตูหลังด้านซ้าย 1 ประตู เครื่องยนต์มีกำลัง 3.5 แรงม้าซึ่งเท่ากับความจุ 350 ลูกบาศก์เซนติเมตร โจทก์ส่งอ้างเอกสารรวม 3ฉบับ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานโจทก์จำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับจดทะเบียนเสียภาษีรถยนต์ของโจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ร-0112 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กสองตอน มีประตูสามประตู ขนาดกว้าง 1.30 เมตร ยาว 3 เมตรเครื่องยนต์มีความจุในกระบอกสูบ 350 ลูกบาศก์เซนติเมตร รถยนต์คันดังกล่าวได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2514 ในประเภทรถโดยสารสาธารณะและได้เสียภาษีประจำปีเรื่อยมาจนกระทั่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 มีนาคม 2528 ตามสำเนาใบคู่มือการจดทะเบียนเอกสารหมาย จ.1 ก่อนจะถึงวันดังกล่าว โจทก์ได้ไปขอเสียภาษีประจำปีต่อไป แต่นายทะเบียนยานพาหนะจังหวัดภูเก็ตคนเดิมและจำเลยไม่ยอมรับการเสียภาษีประจำปี โดยอ้างว่า รถยนต์ของโจทก์ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะ
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่า รถยนต์ของโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือได้แจ้งย้ายเข้ามาในกรุงเทพมหานครก่อนหรือในวันที่ 19 สิงหาคม 2525 ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2527)จึงจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2527)ไม่ได้นั้น เห็นว่า รถยนต์ของโจทก์ได้รับการจดทะเบียนเป็นประเภทรถโดยสารสาธารณะมาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2514 ปรากฏตามสำเนาใบคู่มือการจดทะเบียนเอกสารหมาย จ.1 และไม่ปรากฏว่า การจดทะเบียนรถยนต์ของโจทก์ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ในขณะนั้นแต่อย่างใด ทั้งโจทก์ก็ได้เสียภาษีประจำปีและได้รับการต่อทะเบียนประเภทรถยนต์รับจ้างสาธารณะเรื่อยมาจนถึงเดือนมีนาคม 2528 รถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กที่มีลักษณะขนาด และกำลังของเครื่องยนต์ และของรถเข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะตามที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2527) อยู่แล้ว กฎกระทรวง ฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2527)ที่กำหนดว่า รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่จะขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะต้องเป็นรถที่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือได้แจ้งย้ายเข้ามาในกรุงเทพมหานครก่อนหรือในวันที่ 19 สิงหาคม2525 นั้น เป็นเรื่องกำหนดกฎเกณฑ์หรือระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างเป็นรถยนต์สาธารณะ ที่มิใช่ได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อรถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้างที่มีลักษณะ ขนาด และกำลังของเครื่องยนต์และของรถเข้าหลักเกณฑ์ที่จะเป็นรถยนต์สาธารณะตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2524) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2527) และได้รับการจดทะเบียนเป็นรถยนต์โดยสารสาธารณะมาก่อนแล้ว โดยที่การจดทะเบียนนั้นยังมิได้ถูกเพิกถอน โจทก์ย่อมมีสิทธิขอจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีรถยนต์ของโจทก์ในประเภทรถยนต์โดยสารสาธารณะต่อไปได้ จำเลยอ้างเหตุดังกล่าวปฏิเสธไม่ยอมรับการขอจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ของโจทก์หาได้ไม่”
พิพากษายืน.

Share